เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่รัฐสภา นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ยื่นเอกสารเพิ่มเติม ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบกรณี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และว่าที่ผู้มัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติ โดยนายวีระมอบหลักฐาน อาทิ หนังสือกู้ยืมเงินเพื่อไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกกับทางมหาวิทยาลัย และเอกสารการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. ในปี 63 สมัยที่นายสุชัชวีร์ ยังไม่เป็นอธิการบดี แต่เป็นบอร์ดของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งการยื่นบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวของนายสุชัชวีร์ในครั้งนั้นไม่ถึง10 ล้านบาท นอกจากนี้ เอกสารที่นำมายื่นแก่ กมธ.ป.ป.ช.มีรายชื่อบุคคลต่างๆ ไม่สามารถระบุชื่อได้ 10 คน และยังมีเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำเงินรายได้มหาศาล เพื่อให้ไปทำการตรวจสอบเพิ่มเติม

“ผมรู้จักกับ ดร.สุชัชวีร์ มานานแล้ว โดยเฉพาะครอบครัวของอดีตภรรยา และได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย ไม่ได้รับจากคนอื่น ดังนั้นที่มายื่นในวันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ดร.สุชัชวีร์ จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ได้ทราบว่าทาง กมธ.ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ทางผมก็ไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบอีกต่อไปแล้ว และผมไม่ได้มีปัญหากับ ดร.สุชัชวีร์ ไปถามเขาได้เลยว่า รู้จักกันมานานแล้วจริงไหม” นายวีระ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หลักในการพิจารณาเหตุร่ำรวยผิดปกติของนายสุชัชวีร์ ไม่ได้เน้นไปที่การร่ำรวยผิดปกติ แต่เน้นไปที่การทุจริตต่อหน้าที่ที่ทำให้มีทรัพย์สินเพิ่ม โดย กมธ.ป.ป.ช.จะนำเรื่องเข้าพิจารณาช่วงปลายเดือน ก.พ.เนื่องจาก กมธ.ป.ป.ช.มีเรื่องร้องเรียนจำนวนมากและไม่ได้ถือว่าเรื่องนี้สำคัญกว่าเรื่องอื่น

เมื่อถามว่า กรณีที่หลายฝ่ายมองว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลงมาตรวจสอบด้วยตนเอง นายสุชัชวีร์ ต้องถูกเอาผิดอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับกรณีของนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ถูกตรวจสอบจนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า กรณีนายสิระ ตนเป็นคนตรวจสอบเอง แต่กรณีนายสุชัชวีร์ ให้ว่ากันไปตามปกติ ตนในฐานะประธาน มีหน้าที่ประสานหน่วยงานต่างๆ สามารถเชิญเข้าชี้แจงได้หมด.