เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจง กรณีบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับ 10 ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1 (ภาวะน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน) เนื่องจากพบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลประมาณ 3 ห่างจากฝั่งประมาณ 11 ไมล์ทะเล สาเหตุเนื่องจากมีการเข้าไปเก็บหลักฐานประกอบทางคดี และมีการสอบสวนถึงน้ำมันในท่อและระบบซึ่งขณะทำการตรวจสอบ ได้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันค้างท่อประมาณ 5,000 ลิตร และบริษัทฯ ขอกำลังทางเรือและอากาศยานจากทัพเรือภาค 1 ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจคราบน้ำมันและวางแผนการใช้สารขจัดคราบน้ำมัน เพื่อระงับเหตุให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และอยู่ในวงจำกัด

ผวาอีก!ระยอง ‘น้ำมันรั่ว’ ซ้ำจุดเดิมมาบตาพุด 5,000 ลิตร เร่งส่งเรือสกัดลอยเข้าหาด

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ บินขึ้นสำรวจและกำหนดแนวทางการใช้สารให้ได้ประโยชน์สูงสุดในจุดที่เกิดคราบน้ำมันแล้ว สถานการณ์ล่าสุดคราบน้ำมันอยู่ในวงจำกัดเหลือให้เห็นเป็นแค่ฟิล์มบางๆ

นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จ.ระยอง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมงว่าพบคราบน้ำมัน เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 10 ก.พ. ในช่วงเช้าจึงได้ออกไปตรวจสอบในทะเลตรงจุดที่พบคราบน้ำมัน โดยอยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร รวมระยะทางห่างจากฝั่งประมาณ 25 กิโลเมตร เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณกลางทางตามจุดที่รับแจ้ง พบคราบน้ำมันเป็นวงกว้าง

ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากการเคลื่อนย้ายท่อ ที่เกิดเหตุครั้งก่อน ที่มีน้ำมันค้างท่ออยู่ น้ำมันจึงทะลักขณะขนย้ายออกมา การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดระยอง ที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน จึงไม่สามารถกระทำการใดๆโดยไม่ได้ขออนุญาต การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของ จ.ระยอง จนก่อเกิดความเสียหายซ้ำขึ้นมาอีก