คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งว่า ขณะนี้พรรคได้ปรับรูปแบบการทำงานใหม่ และต้องให้พร้อมหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในช่วงเดือน พ.ค.นี้ เพราะเดิมทีคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม และตั้งใจจะส่ง ส.ส. ครบทั้ง 400 เขต ให้ได้ แต่ยอมรับว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ เวลาการทำงานค่อนข้างน้อย แต่จะทำงานให้เต็มที่ และจะจัดประชุมใหญ่ในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนพรรค ทสท. จะเสนอชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ จะต้องรอมติจากประชุมใหญ่ของพรรค ตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน

“หากพรรคจะเสนอชื่อจริง ก็พร้อมนำทัพไปสร้างประเทศใหม่ จะอาสาทวงรายได้ อาสาทวงความสุขที่หายไปเกือบ 8 ปี อาสาทวงประชาธิปไตยกลับมาให้คนไทย และขอให้เชื่อมั่นในตน เพราะตลอดการทำงาน 30 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวัง ไม่เคยทุจริต ไม่เคยทิ้งประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่า พรรค ทสท. ส่งผู้สมัครลงแข่งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เราตั้งใจที่จะส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อให้เข้ามาทำงานแก้ไขให้กับชาว กทม. หากได้คำตอบที่ชัดเจนจะเปิดตัวทันที แต่ขอไม่เปิดเผยคุณสมบัติ รับรองว่าเป็นคนที่รู้จักอย่างแน่นอน

เมื่อถามย้ำว่า จะสู้กับว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่เปิดตัวแล้วได้หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า อยากให้สู้กับตัวเองก่อนว่าจะแก้ปัญหาให้กับชาว กทม. ได้อย่างไร

เมื่อถามถึงปัญหาสภาฯ ล่มบ่อยครั้ง คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายค้านที่เป็นเสียงข้างน้อยจะตอบโต้รัฐบาลด้วยการวอล์กเอาต์บ้าง หากเป็นเรื่องที่สำคัญกับประชาชน และรัฐบาลไม่รับฟังเสียงฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ เหมือนปัจจุบันที่เป็นการเล่นเกมการเมือง ยื้อแย่งอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของสภาถดถอยไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่หลายเรื่องและมีความสำคัญกับประชาชน แต่ต้องถูกเลื่อนออกไป ดังนั้นขอให้ ส.ส. คำนึงถึงหัวอกประชาชน เพราะประชาชนเลือกให้มาทำงาน ไม่ได้เลือกมาเพื่อต่อรองอำนาจ จึงรู้สึกผิดหวัง เพราะทำให้คนเสื่อมศรัทธาต่อการเมืองและพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีนักการเมืองที่มีประสบการณ์เข้ามา แต่จะเลือกผู้แทนที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมพรรค แต่พรรคตั้งใจที่จะสร้างคนใหม่เข้ามาทำงาน เน้นการหาขุนพลที่มีความรู้ในทุกด้านเข้ามาทำงานให้กับประชาชน.