เมื่อวันที่ 12 ก.พ. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant ระบุว่า อาจารย์หมอ สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ บอกว่า “จริง ๆ ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน 2 ชนิด เพราะ วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ก็มีเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นให้เด็กต้องฉีดวัคซีนสูตรไขว้””ทางที่ดีที่สุดคนที่ยังไม่ฉีดเข็มแรก ขอให้ฉีดเป็นชนิด mRNA และตามด้วยเข็ม 2 ชนิดเดียวกัน”

“ยกเว้นก่อนหน้านี้ฉีดเชื้อตาย อย่างซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม ก็ต้องฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์” ดังนั้น จากคำถามที่ได้รับมาว่า ควรจะให้บุตรหลานตัวเองฉีดวัคซีนป้องกัน covid ที่เป็น “สูตรไขว้” หรือเปล่า? ก็ขอตอบว่า ไม่เห็นด้วยนะครับ!!

(รายงานข่าว)

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันแม้การติดเชื้อโควิดในเด็กส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง แต่ใน 2% ของเด็กที่ติดเชื้อมีอาการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่ง 1 ใน 3 ของจำนวนนี้ต้องเข้าห้องไอซียู

ขณะที่หากติดเชื้อโควิดแล้วเด็กบางกลุ่มอาจเกิดภาวะมิสซี (MIS-C) หรืออาการอักเสบของหลายอวัยวะขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุ 5-12 ปี ดังนั้น การฉีดวัคซีนในเด็กยังถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก

สำหรับข้อแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม+ไฟเซอร์ในเด็ก 12-17 ปี นั้น วีคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อนำฉีดในเด็กได้

โดยส่วนตัวมองว่า การฉีดวัคซีนเชื้อตายตามด้วยวัคซีนชนิด mRNA จะช่วยลดปริมาณการฉีดวัคซีนเชื้อตายหลายเข็มได้ เนื่องจาก การฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันยังขึ้นไม่ดีนัก ส่วนการฉีดไขว้ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นเทียบเท่าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม

อย่างไรก็ตาม แม้การรับวัคซีนสูตรไขว้ในเด็กสามารถทำได้ แต่จริง ๆ ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน 2 ชนิด เพราะ วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มก็มีเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นให้เด็กต้องฉีดวัคซีนสูตรไขว้