เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงว่าสืบเนื่องจากคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธาน มีมติรับเรื่องสอบจริยธรรมตน กระทำการเข้าข่ายผิดจริยธรรม เนื่องจากเสนอชื่อนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิทบูล” อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบสภาฯ และไม่ควบคุมกำกับนายณัชพล ภายหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดโดยตรงของตน เพราะตนเพียงแค่เสนอชื่อ โดยพิจารณาจากวุฒิการศึกษา ความรู้ ความสามารถ เรื่องสินค้าเกษตร ซึ่งคิดว่ามีประโยชน์ต่อคณะ กมธ.ฯ จึงเสนอต่อนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.ฯ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตำแหน่งที่ปรึกษา กมธ. มีแบบที่ต้องใช้มติที่ประชุม แต่ที่ตนเสนอเป็นแบบใช้ดุลพินิจของประธาน กมธ.ฯ เพราะตำแหน่งที่เสนอคือที่ปรึกษาประธาน กมธ.ฯ ซึ่งประธานจะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ ตนจึงเปรียบเป็นไปรษณีย์ที่ส่งให้ประธานตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมาในการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญปาล์มฯ ตนเสนอให้ถอนชื่อนายณัชพลออกจากตำแหน่ง ซึ่งประธาน กมธ.ฯ รับทราบ และดำเนินการไปตามนั้น ยืนยันว่าตนไม่ได้นิ่งดูดาย เนื่องจากตอนเสนอชื่อเขายังไม่ได้กระทำความผิด ตอนแต่งตั้งเขายังไม่ได้กระทำความผิด แต่หลังจากนั้นเมื่อเขาไปไลฟ์สดเกี่ยวกับคณะ กมธ.วิสามัญปาล์มฯ ตนได้โทรฯ ไปว่ากล่าวตักเตือนว่าการแสดงความเห็นอะไรต้องให้ประธานอนุญาตก่อน จากนั้นเขาไม่ได้เข้าประชุมอีก ตนถือว่าได้ดำเนินการตามที่ประธานตักเตือนตั้งแต่ปี 63 แล้ว

“ผมเป็นเพียงไปรษณีย์ ส่วนคนรับผิดชอบคือคนแต่งตั้ง ผมไม่สามารถลงนามคำสั่งแต่งตั้งได้ นายวีระกรเป็นคนพิจารณาว่าควรตั้งหรือไม่ควรตั้ง คนที่ปลดได้ก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นนายวีระกร ตกลงใครผิดกันแน่ ผมผิดหรือนายวีระกรผิด ถ้าบอกว่าคนเสนอผิด คนแต่งตั้งไม่ผิด ผมขอยกตัวอย่างกรณีทุจริตถุงมือยาง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เคยชี้แจงต่อสภาช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าเป็นคนเสนอชื่อประธานองค์การคลังสินค้า (อสค.) จากนั้น ครม. เป็นผู้แต่งตั้ง และปัจจุบันการทุจริตถุงมือยางมีการตั้งกรรมการสอบ ถ้ากรณีของผมผิด กรณีนายจุรินทร์ต้องผิดด้วย เพราะเป็นคนเสนอชื่อให้ ครม.แต่งตั้ง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ตนกำลังจะบอกว่าเราไม่สามารถไปควบคุมคนที่เราเสนอไป เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ทำผิด แต่ทำผิดภายหลัง หรือกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิรัช รัตนเศรษฐ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หลังจากนั้น นายวิรัชถูก ป.ป.ช.ชี้มูล อัยการสั่งฟ้อง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถามว่าแบบนนี้ผิดจริยธรรมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะคนลงนามแต่งตั้งก็ต้องผิดด้วย หรือกรณีนายชวน แต่งตั้งนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็น กมธ.ป.ป.ช. คนที่รับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายชวน จะมีความผิดหรือไม่ เพราะหลังจากนั้น ทั้งนายสิระ และ น.ส.ปารีณา ถูกให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ ถามว่านายชวนผิดหรือไม่

“ดังนั้นคนที่ลงนามคำสั่ง คนที่เสนอ ถ้าบอกว่าผมผิด ทุกกรณีที่ยกตัวอย่างก็ต้องผิดด้วย ผมเข้าใจว่าเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลหลุดหมด แบบนี้หมายความว่าอย่างไร ถ้าผมผิดผมยอมรับ แต่กรณีอื่น ๆ ที่ผิดต้องผิดเหมือนกัน ถ้าประหารในสิ่งที่ผมไม่ถูกต้องผมไม่ว่า แต่ถ้าประหารในสิ่งที่ผมถูกต้องขอให้จำไว้ว่าดาบนั้นคืนสนอง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว