'ฤทธิ์ ฤาชา' รู้มานาน 'สรพงษ์' ป่วยมะเร็ง รอบแรกรักษาหายก่อนลามอีก

กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างต่อเนื่องสำหรับเรื่องราวของอดีตพระเอกดัง สรพงษ์ ชาตรี ที่มีข่าวว่าป่วยมะเร็งสมอง ทำให้หลายคนตกใจและพากันส่งกำลังใจไปให้อย่างมากมาย รวมถึงขอให้ครอบครัวดูแลนักแสดงดังให้ดีๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘กรุง’ รับ ‘สรพงษ์’ จำบทละครไม่ได้แล้ว เผยไม่เคยปรึกษาเรื่องสุขภาพ

‘สรพงษ์ ชาตรี’ป่วยมะเร็งสมอง เจ้าตัวกังวลกลัวคนทุกข์ใจตามจึงไม่บอกใคร

ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเพื่อนสนิทของสรพงษ์อีกคนหนึ่งอย่างนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ “ฤทธิ์ ฤาชา” ที่ยอมรับว่าทราบข่าวเพื่อนรักป่วยมาพักใหญ่แล้ว

ฤทธิ์ เผยว่า “เรื่องเอกเอาจริงๆ ผมกับเอกสนิทสนมกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเลย รู้จักกันมาจะ 30 ปีแล้ว ก็เรียกว่าตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ แหละ และไปไหนไปกันตั้งแต่วิหารหลวงพ่อโตที่สีคิ้วเขายังไม่มีอะไรเลย คือทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นมุสลิม แต่มุสลิมกับพุทธอยู่กันได้ เหมือนผมกับสรพงษ์ ก็สร้างวิหารกันมาตั้งแต่มี 3 ไร่ จนตอนนี้ 170 ไร่ สิ่งก่อสร้างกว่าพันล้าน คือเขาเป็นคนดีมาก สรพงษ์รักและอยากให้คนรู้จักศาสนามาก เขาเป็นคนที่ทุ่มเทเพื่อศาสนาจริงๆ อย่างตอนที่เขาอยู่วัด เขาตื่นตี 4 ไปกวาดพื้น ตี 5 ไปสวดมนต์ สุขภาพร่างกายเขาดีมาก ไม่โรคอะไรเลย เพราะเขาแข็งแรง”

“แต่จู่ๆ เขาก็เป็นมะเร็ง อันนี้เขาไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย มันเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วเขาเป็นมะเร็งที่ปอด ก็รักษาไปจนหาย แต่มันก็กลับมาใหม่เป็นที่สมองตามที่เป็นข่าว จากนั้นเขาก็เริ่มเก็บตัว ปีหนึ่งคือหยุดเล่นละครไปเลย เขาไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้พบกันเลย ไหนจะโควิดอีกก็ไม่มีใครไปหาเพราะห่วงเขาจะติดเชื้อแล้วยาวไป และเขาเองก็ไม่อยากบอกใครเพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อนและทุกข์ใจไปกับเขา เขาดีมากๆ”

นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ เล่าต่อว่า “บอกตรงๆ เรื่องเขาป่วยผมรู้มานานแล้ว แต่ผมก็ไม่กล้าพูด และเป็นความตั้งใจของเขาที่ไม่อยากให้คนรู้ คือครั้งแรกที่เขาเป็น เขาก็คิดว่าหายแล้วเพราะรักษาไปหายราวๆ ปี 63 ที่บอกไป เขาเจอตอนไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วพอดีมีก้อนเนื้อ ก็ไปผ่าที่โรงพยาบาลรามาฯ นิดเดียวเอง ระหว่างนั้นก็เก็บตัว ไม่มีใครรู้ จนหาย ก็กลับมารับงานในวงการอีก เล่นละครไป แต่หลังๆ เขาจำบทไม่ได้ เพราะมันกินสมอง ก็เพิ่งเป็นเร็วๆ นี้แหละ ที่จำบทไม่ได้ ก็เลยไปตรวจและรู้ว่าเป็นมะเร็งอีก แต่ขั้นไหนระยะไหนผมไม่รู้จริงๆ และผมก็ไม่อยากให้ใครไปเยี่ยม เขาเองก็เช่นกัน กลัวติดโควิดและอะไรหลายๆ อย่าง”

“จริงๆ เรื่องเขาป่วยมะเร็ง ผมสงสัยตั้งแต่ตอนที่เขาไม่ไปงานวันเกิดผม 2 ปีที่แล้ว เพราะปกติ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เขาไปตลอด แต่จู่ๆ ไม่ไป ผมก็สงสัยเลยไปสืบมาและรู้ว่าป่วยครับ คือเขาเป็นโรคนี้ถามว่าเขาเครียดไหม ผมว่าเขาเครียดและเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องการสร้างพระของเขา ท่านพระนอนอะไรต่างๆ กลัวไม่มีใครสานต่อ เขาได้คือเขาทุ่มเทเพื่อศาสนามากๆ เพราะเขาอยากให้ทุกคนได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ เรื่องการรักษาตัวของเขาเขาค่อนข้างทันสมัย เขารักษากับหมอปกติครับ”