สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประชุมวาระพิเศษ เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เข้าร่วมการหารือด้วยตัวเอง และยืนยันว่า ข้อมูลข่าวกรองของรัฐบาลวอชิงตัน “ยังคงบ่งชี้ความเป็นไปได้สูง” ของการที่รัสเซียจะเป็นฝ่ายเปิดฉาก “โจมตี” ยูเครน “ด้วยการสร้างสถานการณ์” ที่รวมถึง การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ และการส่งทหารเข้ามาแบบฉับพลัน

นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ


บลิงเคนกล่าวด้วยว่า รัฐบาลวอชิงตันมีความเข้าใจต่อการที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม เกี่ยวกับ “ความน่าเชื่อถือ” ของข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐ แต่ขอยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ คือเพื่อป้องกันสงคราม และสหรัฐไม่มีความคิดเป็นฝ่ายต้องการทำสงครามในยูเครน


ขณะเดียวกัน บลิงเคนเรียกร้องรัสเซียให้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าไม่มีเจตนารุกรานยูเครน ไม่ว่าด้วยวิธีการแบบใดก็ตาม และถอนทหารทั้งหมดกลับออกไปด้วย

นายเซอร์เก เวอร์ชินิน รมช.การต่างประเทศรัสเซีย


ด้านนายเซอร์เก เวอร์ชินิน รมช.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดรอบนี้ เป็นผลจากการที่ยูเครนเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงมินสก์ ฉบับปี 2558 ซึ่งมีสาระสำคัญ คือการหยุดยิงในภูมิภาคดอนบาส หรือภาคตะวันออกของยูเครน และย้ำว่า ข้อกล่าวหาของรัฐบาลวอชิงตัน “ไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิง”


ทั้งนี้ การประชุมยูเอ็นเอสซีในวันดังกล่าว เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับเหตุยิงปืนใหญ่ในภูมิภาคดอนบาส สร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ ขณะที่รัฐบาลยูเครนและกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ต่างกล่าวโทษกันและกัน.

เครดิตภาพ : REUTERS