นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ภายหลังเกิดเหตุภูเขาไฟใต้ทะเลบางแสน ระเบิดรุนแรง ทั่วยุทธภพการเมืองไทย รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนระดับ 10 แมกนิจูด ครอบคลุมพื้นที่ 10 เขตเลือกตั้งเมืองชลบุรี

สะท้อนให้เห็นภาพอนาคตอันใกล้ คลื่นยักษ์สึนามิกำลังพุ่งเข้าซัดชายฝั่งบางแสน สร้างความพินาศย่อยยับให้กับคนที่เลือกข้างผิดชีวิตเปลี่ยน

ย้อนกลับไปวันที่ 17 ก.พ. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะแกนนำกลุ่มคุณปลื้ม โพสต์ข้อความผ่าน Facebook อุปมาอุปไมย ส่งสารไปถึง คนกันเองที่ทรยศ หักหลัง หวังสร้างอาณาจักร ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งยึดพื้นที่ชลบุรี พร้อมยืนยันบ้านใหญ่ไม่ยอมนิ่งเฉยกับเรื่องนี้แน่

“คล้ายกับเวลาหมาเห่า ถ้าไม่สร้างปัญหาร้ายอะไร เราก็ไม่ควรไปดุ เพราะหมาก็ทำตามสัญชาตญาณของหมา แต่คราวนี้ต่างไป เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าหมาเริ่มก้าวร้าว ทั้งที่อุ้มชูมายาวนาน คนชลบุรีรักใครรักจริง คบใครคบจริง เราเป็นแบบนี้กันมาตลอด นับญาติกันมาตั้งแต่เกิด แต่กับการทรยศ หักหลัง เราก็จะไม่นิ่งเฉย” นายสนธยา ระบุช่วงหนึ่ง

คล้อยหลังไม่ถึง 24 ชั่วโมง วันที่ 18 ก.พ. “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรีเขต 1 ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เจ้าของรหัส “จับกังหนึ่ง “ออกมาโต้ตอบผ่านนิทานพงศาวดาร เรื่อง “ขุนศึกคู่กาย กับแม่ทัพอัลไซเมอร์” ว่าด้วยเรื่องแม่ทัพผิดคำสัญญากับขุนศึกหลังรบชนะ ปรากฏว่าแม่ทัพเป็นอัลไซเมอร์ สิ่งที่รับปากไว้ลืมหมด

“ที่ผ่านมาชีวิตจริง ผมไม่เคยเห็นหมาตัวไหนมันทิ้งเจ้าของ เห็นมีแต่เจ้าของนั่นแหละที่ชอบเอาหมาไปทิ้ง ไปปล่อยวัด มีเหตุผลไม่กี่ข้อที่หมาจะหายไปนั้น ก็คือหลงทางกับการถูกทำร้ายบาดเจ็บ จนถูกบ้านหลังใหม่ เก็บเอาไปเลี้ยง…ระวังเจ้าของหมา อาจจะเสียหมา ซะเอง” รมต.เฮ้ง ตอบโต้ช่วงหนึ่ง

ต้นเหตุที่ทำให้อุณหภูมิทะเลบางแสน เดือดพล่านเริ่มนับหนึ่งจาก กระแสข่าว ความขัดแย้งระหว่าง “กลุ่มบ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม” กับกลุ่ม ‘รมต.เฮ้ง’ ที่ทั้งสองกลุ่มขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันเรื่องส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.

เนื่องด้วยตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่งผลให้ พื้นที่ จ.ชลบุรี จากเดิมมี 8 เขตเลือกตั้ง ถูกซอยย่อย ออกไปเป็น 10 เขตเลือกตั้งเท่ากับมี ส.ส.เพิ่ม 2 เก้าอี้

แม้ “รมต.เฮ้ง” เคยเป็นลูกทีมกลุ่มตระกูลคุณปลื้ม แต่ด้วยความที่ตลอดช่วงเกือบ 3 ปี หมั่นฝึกปรือวิทยายุทธให้กล้าแกร่ง ทำให้ระยะหลัง “รมต.เฮ้ง” เอาใจออกห่างแยกวงออกไปอยู่กับ ปรมาจารย์ผู้มากบารมีในพรรค พปชร. และตามมาด้วยความพยายามวัดรอยเท้าในพื้นที่ชลบุรี

“ฟางเส้นสุดท้าย” ขาดสะบั้นลงเมื่อผลเจรจา แบ่งโควตาพื้นที่ 10 เขตชลบุรีไม่ลงตัว นำไปสู่เหตุการณ์ ‘รมต.เฮ้ง’ ได้รับไฟเขียวจาก บิ๊ก พปชร.ให้ยึดอำนาจวางตัว 10 ขุนพล เตรียมลงสนามเลือกตั้งชลบุรี ในนามพรรค พปชร. แทนกลุ่มบ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม

สำหรับเบื้องลึกเบื้องหลังที่ รมต.เฮ้ง ได้รับความไว้วางใจให้คุมสนามเลือกตั้งชลบุรี เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปคราวศึกเลือกตั้งปี 62 ที่ ‘เสี่ยเฮ้ง’ ประสบความสำเร็จ นำทัพเข้าตี 3 หัวเมืองหลักเมืองชลฯ ส่วนกลุ่มบ้านใหญ่แพ้ราบคาบทุกหัวเมือง ทำให้ ‘เสี่ยเฮ้ง’ มีพลังอำนาจต่อรองภายในพรรค พปชร. และแยกออกไปเติบโตภายใต้ สังกัดกลุ่มพี่น้อง 3 ป.

อย่างไรก็ตามภายหลังฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น มีรายงานข่าว “กลุ่มคุณปลื้ม” เตรียมย้ายสำมะโนครัว ไปสังกัดพรรคสี่กุมาร หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “พรรคสร้างอนาคตไทย” ภายใต้เงาของ เฮียกวง-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพื่อเตรียมไพร่พล กระสุนดินดำเข้าทำศึกห้ำหั่นกับ กลุ่มอำนาจใหม่ที่พยายาม วัดรอยเท้ายึดฐานที่มั่นเมืองชลบุรี

สมรภูมิการเมืองในศึกวังน้ำเค็มครั้งนี้ เป็นไปตามสัจธรรมการเมืองไทย คนที่แข็งแกร่งและปรับตัวได้ดี เลือกข้างถูก เท่านั้นที่มีโอกาสอยู่รอดในสนามรบ

ส่วนคนที่อ่อนแอ ปรับตัวช้า และเลือกข้างผิดมีสิทธิสูญพันธุ์ถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์ ยุทธภพการเมืองไทย!

ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง