เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ภาพรวมคะแนนรัฐบาลในการอภิปรายครั้งนี้สอบตก ให้คะแนนร้อยละ 40 หรือคะแนนต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ทั้งปัญหาของแพง การทุจริต การบริหารงานที่ผิดพลาด และการทำปิดกฎหมายต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไปอ้างตัวเองว่า เป็นพระราม เหมือนเป็นตัวเอกในเรื่อง แต่การบริหารราชการแผ่นดินกลับล้มเหลวสิ้นเชิง ธุรกิจพังทั้งแผ่นดิน คนป่วย คนตายจากโควิดทั่วประเทศ ตนอภิปรายเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวไป 25 นาที แต่นายกฯ ไม่ตอบอะไร
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนจะตั้งคำถาม 7 ข้อถึงนายกฯ เพราะนายกฯยังไม่ได้ตอบคำถามตน คือ 1.ส่วนต่อขยายเขียวเหนือ-เขียวใต้ ซึ่งตรงนี้กระทรวงคมนาคมเขาทักท้วงว่า ยังเป็นสมบัติของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ใช่ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่กระทรวงมหาดไทยกลับนำเรื่องนี้เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจะโอนสายเขียวเหนือ-เขียวใต้นี้ไปให้บีทีเอสได้อย่างไร 2.ไข่แดงที่จะหมดสัญญาในปี 2572 แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม. ไปต่อสัญญาจ้างเขาวิ่งรถถึงปี 2585 นั้น ผิดกฎหมาย และเรื่องกำลังอยู่ใน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3.กทม. เอาอำนาจไปจ้างเขาวิ่งรถถึงปี 2585 ในเมื่อไม่ใช้สมบัติของตัวเอง เพราะยังเป็นสมบัติของ รฟม. แล้วมั่นใจว่า ทำถูกกฎหมาย เหตุใดต้องใช้มาตรา 44 โดยไม่มีการประมูลและเทียบราคา นอกจากนี้ เหตุใดคำสั่ง ม.44 นี้ จึงออกให้เพียงแต่เจ้าสัวบีทีเอสเพียงเจ้าเดียว ทำไมไม่ออกให้คนอื่นบ้าง
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า 4.รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมใจกันลาประชุม ครม. บอกยังไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย พรรค ภท. จะยังคงดำเนินการคัดค้านเช่นเดิม กระทรวงคมนาคมเป็นผู้คัดค้านเอง ไม่ใช่ฝ่ายค้านคัดค้าน ทำไมพระรามประยุทธ์ไม่ฟังบ้าง 5.ที่มีการจัดฉากสร้างหนี้ 3.7 หมื่นล้านบาทนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน เอาอำนาจอะไรไปให้ประชาชนนั่งฟรี แบบนี้หนี้ก้อนนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 6.ถ้าไม่ให้ต่อขยายสัมปทานค่าโดยสารส่วนต่อขยาย 158 บาท แต่ถ้าให้ต่อจะอยู่ที่ 65 บาท ในเมื่อ รฟม. นั่งไกลแค่ไหนก็ตามก็ไม่เกิน 42 บาท ก็ควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน ค่าโดยสารรถไฟฟ้าต้องไม่ควรเกิน 42 บาท วันนี้คุณต้องให้สัญญาหมดในปี 72 แล้วเอารถไฟฟ้ามาเป็นของรัฐ 7.นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่พรรค ภท.ที่ร่วม ครม.เขาทักท้วง แต่คุณก็เลือกเชื่อนางปานทิพย์ ทั้งนี้ เหตุใดพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รอให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่ประชาชนจะเลือกเข้ามามาตัดสินใจ หลังประกาศเลือกตั้งในเดือน พ.ค.นี้
“ผมขอท้าพระรามประยุทธ์แล้วกันว่า ถ้าแน่จริงให้พระรามประยุทธ์มาออกทีวีแข่งกับตน ดีเบตกับตนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่องไหนก็ได้ ถ้าพระรามประยุทธ์กลัวจะเอาคนมาช่วยด้วยก็ได้ แต่ผมจะไปคนเดียว ที่บอกว่าทำถูกกฎหมาย ก็อยากถามว่า กฎหมายอะไร ถ้าแน่จริงคุณต่อสัญญาสัมปทานไปเลย แต่เดือน พ.ค.ที่เปิดสภามา พรรค พท.จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ซึ่งการอภิปรายครั้งที่แล้วเจอกบฎธรรมนัสยังเกือบตาย ต้องไปยกมือไหว้ ส.ส. รอบนี้พระรามประยุทธ์ก็จะได้รู้ว่า นรกมีจริง แล้วอย่าเพิ่งชิงยุบสภาหนีก็แล้วกัน“ นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนเป็นผู้จุดประเด็นเรื่องนี้เป็นคนแรก และมีการอภิปรายเรื่องนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ตนเล่นการเมืองตรงไปตรงมา กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซัดกันแรงในขนาดนี้ แต่ตอนอภิปรายครั้งแรกมีคนบอกว่าตนไปรับจ๊อบล้มวยเรื่องสายสีเขียว และตนก็ยังตามเรื่องนี้ต่อ ตนกล้าสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ขนาดนี้ ตนฝากสื่อมวลชนไปด้วยว่า เอารองเท้าตบคนที่เคยพูดว่าตนไปล้มมวยด้วยสักมีหนึ่ง และฝากถามด้วยว่า อย่างนี้หรือที่เรียกว่าล้มมวย
เมื่อถามว่า มองว่าเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ เป็นจุดจบรัฐบาลได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลล้มได้ เรื่องนี้ยังอยู่ในวาระ ครม. ขณะที่พรรคการเมืองอันดับ 2 ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ขณะนี้บอกว่า ร่วมด้วยไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ผิดกฎหมาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกว่า สุดท้ายหากตกลงกันไม่ได้ต้องใช้วิธียกมือ ตนเป็นรัฐมนตรีมาไม่เคยเห็นว่ามีมติ ครม.ไหนที่ต้องใช้วิธีนี้ คิดว่าไม่ทางมีมติเป็นเอกฉันท์แน่นอน เพราะพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐบาลไม่เอาด้วย แถมไม่เอาด้วยแบบมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรอีก
“หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ต้องมีการยกมือ กลุ่มร.อ.ธรรมนัส ก็ออกไปส่วนหนึ่ง เสียงรัฐบาลก็ปริ่มน้ำอยู่แล้ว แล้วถ้าต้องยกมือในสภา จะไม่มีปัญหาหรือ ถ้าผ่านเรื่องนี้ก็ต้องชิงยุบสภา ไม่ปล่อยให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจหรอก ผมมองว่า รัฐบาลก็ถึงทางตันเช่นกัน เพราะมหาดไทยเองก็ไม่ถอย ไม่ยอมถอนเรื่องออกไป ผมจึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดแตกหักของรัฐบาล” นายยุทธพงศ์ กล่าว.
