สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่าชาวเนปาลจำนวนมาก รวมตัวเดินขบวนในกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อต่อต้านการอภิปรายของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเตรียมให้สัตยาบัน รับรองความช่วยเหลือมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,076 ล้านบาท) จากรัฐบาลวอชิงตัน และสถานการณ์บานปลายกลายเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือด ระหว่างฝูงชนกับตำรวจปราบจลาจล

ตำรวจปราบจลาจลของเนปาลเดินหน้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ต่อต้านเงินสนับสนุนจากสหรัฐ บนถนนในกรุงกาฐมาณฑุ


ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าวเป็นไปตามการลงนามร่วมกับ องค์กรมิลเลนเนียมแชลเลนจ์ (The Millennium Challenge Corporation) หรือ “เอ็มซีซี” ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลวอชิงตัน เมื่อปี 2560 เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงถนนและเสาส่งกระแสไฟฟ้า เป็นระยะทาง 300 กิโลเมตร ในเนปาล

มวลชนเดินขบวนไปตามท้องถนน ในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อคัดค้านการรับเงินจากรัฐบาลสหรัฐ


แม้รัฐบาลยืนยันว่า เงินช่วยเหลือทั้งหมด “คือของขวัญ” หรือ “เป็นเงินให้เปล่า” ที่จะเป็นประโยชน์กับชาวเนปาลทั้งประเทศ โดยเฉพาะการสร้างงานใหม่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านมองว่า ความร่วมมือที่ว่านี้ “อยู่เหนือกฎหมาย” และจะเป็นการทำให้เนปาล “สูญเสียอำนาจอธิปไตย” เนื่องจากเมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว พบว่าหน่วยงานรัฐของเนปาล “มีบทบาทน้อยมาก” กับการดำเนินงานและการตรวจสอบโครงการทั้งหมด

ตำรวจปราบจลาจลของเนปาลยิงแก๊สน้ำตาเพื่อยับยั้งกลุ่มผู้ประท้วง ไม่ให้เข้าใกล้อาคารรัฐสภา ในกรุงกาฐมาณฑุ


ขณะที่มีรายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นแตกต่างกันไปในเรื่องนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองสายสนับสนุนอดีตกบฏเหมาอิสต์และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล ว่าสมควรรับเงินนี้หรือไม่ และวิจารณ์ด้วยว่า อาจเป็น “เจตนาซ่อนเร้น” ของสหรัฐ ในการนำชิ้นส่วนทางทหารเข้ามาติดตั้ง เนื่องจากเนปาลมีพรมแดนติดกับจีน ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงกาฐมาณฑุออกแถลงการณ์ ยืนยัน “ความบริสุทธิ์ใจ”.

เครดิตภาพ : REUTERS