เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชาระยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มพื้นที่ชลประทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีพื้นที่ที่พัฒนาเป็นพื้นที่ชลประทานแล้ว 33.92 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 22.7 ของพื้นที่เกษตรทั้งหมด และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นอีก 18 ล้านไร่ ภายในปี 2580 ตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปี โดยตั้งแต่ปี 2561-2564 เพิ่มพื้นที่ชลประทานได้แล้ว 1.17 ล้านไร่ ขณะเดียวกัน ยังปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติ ขยายระบบประปา และวางระบบการป้องกันน้ำท่วมภัยแล้ง ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังใช้กลไกการบูรณาการหน่วยงานภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เพื่อขับเคลื่อนมาตรการในเชิงป้องกันและผลกระทบเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติด้านน้ำ ทั้งภัยน้ำท่วมหรือภัยแล้ง เช่น การประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม การเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง อาทิ 10 มาตรการฤดูฝน ปี 2564 และ 9 มาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 สามารถดำเนินได้ถึง 20,824 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัด เพิ่มปริมาณน้ำได้ 1,057 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 7.58 ล้านไร่ เช่นเดียวกับปี 2564 ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 6,206 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น 49.95 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ปริมาณน้ำบาดาล 44 ล้านลูกบาศก์เมตร มีครัวเรือนรับประโยชน์ 364,167 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์ 507,849 ไร่ ถือเป็นการใช้งบกลางอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นข้อห่วงใยที่หลายฝ่ายมีข้อกังวล ในเรื่องการจัดเก็บค่าน้ำที่จะกระทบถึงประชาชนและเกษตรกรรายย่อยนั้น สทนช. ขอชี้แจงว่า การกำหนดอัตราค่าใช้น้ำจะมีความเป็นธรรม ไม่แสวงหากำไร เป็นการดำเนินการเพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้มีจิตสำนึกในการใช้น้ำร่วมกันอย่างประหยัดเท่านั้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายลำดับรองในการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บค่าน้ำประเภทที่ 2 และประเภทที่ 3 ที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำฯ ซึ่งต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป.