นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. ซึ่งปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้ารถยนต์ประเภทต่าง ๆ รวม 27 ประเภท โดยจะมี 6 ประเภท ที่จะมีผลใช้บังคับวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ประเภทแรก คือ รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก แบบผสม ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้าได้ หรือปลั๊กอินไฮบริด จัดเก็บภาษี 10% จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 78 กรณีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจัดเก็บภาษีในอัตรา 50%

ส่วนประเภทที่ 2 รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท ประหยัดพลังงาน แบบพลังงานไฟฟ้าจัดเก็บภาษี 2% กรณีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข แบ่งเป็น 2 ช่วงระยะเวลา คือ ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวง มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป ให้จัดเก็บภาษีในอัตรา 8-10%

ประเภทที่ 3 รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท ประหยัดพลังงานแบบมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ให้จัดเก็บภาษี 14% จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 และตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 พิจารณาจากความจุกระบอกสูบ อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น

ขณะที่ประเภทที่ 4 รถยนต์กระบะ 4 ประตู แบบผสมที่ใช้ พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้าได้ ให้จัดเก็บภาษีในอัตราตามมูลค่า 5% ตั้งแต่กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้

ประเภทที่ 5 รถยนต์กระบะแบบพลังงานไฟฟ้า แบ่งเป็น 2 ช่วงระยะเวลา คือ ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 ให้จัดเก็บภาษี 0% และตั้งแต่ 1 ม.ค. 69 – 31 ธ.ค. 78 ให้จัดเก็บภาษีในอัตราตามมูลค่า 2% กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์มีการจัดเก็บภาษีในอัตราตามมูลค่า 10% ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึง วันที่ 31 ธ.ค. 68 และ 1 ม.ค. 69 – 31 ธ.ค. 78

สำหรับประเภทที่ 6 รถยนต์กระบะแบบเซลล์เชื้อเพลิงให้จัดเก็บภาษี 0% กรณีที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ แบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่วันที่ กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 69 – 31 ธ.ค. 78 ให้จัดเก็บภาษีในอัตราตามมูลค่า 5% ขณะที่รถยนต์ที่เหลืออีก 21 ประเภท จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 69-78

ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ 4 ประเภท ได้แก่ แบบพลังงานไฟฟ้าภาษี 0-10% ตั้งแต่ 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป, แบบที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง หรือแบบผสมที่ใช้พลังงาน 4-25%, รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ผลิตหรือนำเข้ามาเพื่อนำไปวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ 0% ตั้งแต่ 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป และรถจักรยานยนต์อื่น ๆ 25-30% เป็นต้น

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป หรือซีบียู โดยปรับลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรซีบียูได้รับสิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และการนำเข้าทั่วไป ในปี 65-66 ถ้าราคาขายปลีกแนะนำ ไม่เกิน 2 ล้านบาท กรณีใช้สิทธิเอฟทีเอ อากรไม่เกิน 40% ให้ยกเว้นอากร แต่ถ้าอากรเกิน 40% ให้ลดลงอีก 40% สำหรับกรณีนำเข้าทั่วไป อากร 80% ให้ลดลงเหลือ 40%

ส่วนราคาขายปลีกตั้งแต่ 2-7 ล้านบาท กรณีใช้สิทธิเอฟทีเอ อากรไม่เกิน 20% ให้ยกเว้นอากร, ใช้สิทธิเอฟทีเอ อากรเกิน 20% ให้ลดลงอีก 20% สำหรับอัตราอากรนำเข้าทั่วไปให้ลดลงเหลือ 60% โดยคาดว่าจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ 60,000 ล้านบาท แต่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย