เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้ในเอเชียรวมถึงไทยมีการระบาดของโควิด-19 ในช่วงขาขึ้น โดยในรอบ 14 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จะเป็นตัวชี้วัดสถานการณ์มากกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการที่เห็นว่าเพิ่มขึ้นมากทั้งที่มีการตรวจ หรือไม่ได้ตรวจ ATK ก็ตาม ทั้งนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโด๊ส โดยหลักการน่าจะลดการป่วยหนักเสียชีวิตได้เยอะ ซึ่งโอมิครอนนั้นแพร่เร็ว แต่อาการไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม หากแพร่มาเจอกับคนไม่ฉีดวัคซีน ที่อาจจะมีโรคประจำตัวอยู่ก็อาจจะทำให้อาการรุนแรงได้

จากข้อมูลในรอบ 14 วันที่ผ่านมา พบว่าผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า ปอดอักเสบ 905 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 240 ราย เพิ่มขึ้น 2 เท่าเช่นกัน ทั้งนี้ก็เป็นผลมาจากการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิต 38 ราย เพิ่มขึ้น 2 เท่า สอดคล้องกับจำนวนผู้ปอดอักเสบ และใส่ท่อที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากมีความผ่อนคลายมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยอาการหนักนั้นมีเปอร์เซ็นต์ไม่มาก ประมาณ 10-20% ส่วนคนอาการน้อยหรือไม่มีอาการแต่เข้ามาอยู่ในรพ. มีถึง 55.7% หากกลุ่มนี้สามารถทำ HI ได้ก็ดีมาก ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตในยอดการติดเชื้อรายใหม่ใกล้เคียงกัน จากเชื้อเดลตา 1,800 ราย ส่วนโอมิครอน 188 ราย ห่างกัน 10 เท่า แต่หากเราปล่อยให้การติดเชื้อสูงกว่านี้อย่างรวดเร็ว ก็เสี่ยงที่จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5-10 เท่าเช่นกัน

ผอ.กองระบาดฯ กล่าวอีกว่า การคาดประมาณการณ์นั้นยาก เพราะเรามีคนติดเชื้อไม่มีอาการจำนวนมากในชุมชนทั้งที่ตรวจหรือไม่ตรวจ ATK เพราะมีการผ่อนคลายสถานการณ์มากขึ้น ทำให้มีการแพร่ระบาดหลายคลัสเตอร์ ดังนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์รุนแรง รวดเร็วเกินไป ในช่วงนี้จึงต้องคงการเตือนการเตือนภัยระดับ 4 เอาไว้ทั้งประเทศ ขอให้งดไปสถานที่เสี่ยง ที่แออัด คนเยอะ งดการเดินทางในระบบขนส่งที่มีความแออัด

ทางด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบ ที่เพิ่มชัดเจนคือสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มอีกหากไม่มีมาตรการป้องกันร่วมกับการฉีดวัคซีน ซึ่งในรอบการระบาดของโอมิครอน มีผู้สูงอายุที่ไม่ฉีดวัคซีน อัตราการเสียชีวิต 178 ราย ต่อ 1 ล้านประชากร แต่หากผู้สูงอายุฉีดบูสเตอร์โด๊ส จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง 41 เท่า ฉีด 2 เข็ม ลดอัตราการเสียชีวิต 6 เท่า เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจำเป็นมากในผู้สูงอายุในการควบคุมโรค และไม่ทำให้ผู้เสียชีวิตในไทยลดลง ต้องค้นหาผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้ฉีด 2.2 ล้านคน จากทั้งหมดประมาณ 12.7 ล้านคน แม้ว่าจะครอบคลุมแล้ว 82.8% ซึ่งสูงมาก แต่ยังต้องการให้สูงขึ้นอีก.