เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาเพื่อเข้าเยี่ยมนายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หลังจากที่วานนี้ (23 ก.พ.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกคำร้องขอประกันตัวทั้งคู่ ระบุ การขอไปเรียน-ไปทำงานทนาย ยังไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ภายหลังการเข้าเยี่ยม ทนายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ในส่วนสำนวนของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ถึงแม้ศาลยกคำร้อง แต่ก็ได้มีคำสั่งให้นำเอกสารการเรียนของนายพริษฐ์มายื่นต่อศาลเพื่อพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้ได้กลับไปทำการศึกษาต่อได้ โดยวันนี้ตนได้ดำเนินเรื่องนำหลักฐานการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรับรองสภาพการเป็นนักศึกษา และเอกสารที่ทางคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับรอง โดยได้ยื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เรียบร้อยแล้ว หากศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วเห็นว่าสมควร ก็อาจจะมีการปล่อยตัว นายพริษฐ์ ภายในวันนี้

ทนายกฤษฎางค์ กล่าวถึงกรณีของนายอานนท์ นำภา ว่า ศาลได้ยกคำร้องในเหตุผลการขอออกไปประกอบอาชีพทนายความเพื่อเลี้ยงดู ดูแลครอบครัว ซึ่งจากเรื่องนี้ ตนก็มองว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องคุมขังต่อ เนื่องจากคดีอื่นๆ ก็สามารถปล่อยตัวชั่วคราวได้ และคดีความดังกล่าว จะมีการนัดสืบคดีในปีหน้า และการอยู่ภายในเรือนจำ ตนมองว่าเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ควรปล่อยตัวชั่วคราวและให้จำเลยได้ออกมาสู้คดีด้านนอกจะมีประโยชน์กว่า 

ทนายกฤษฎางค์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องการยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัวอีกครั้งว่า หากศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วเห็นว่าต้องยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัวอีกครั้ง ตนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของทั้งนายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ทั้งคู่ยังมีสภาพจิตใจดี แต่ตนห่วงเรื่องสุขภาพของนายพริษฐ์ เพราะยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้เข็มเดียว