เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เพจเฟซบุ๊ก “Royal Thai  Embassy, Warsaw, Poland” ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีอาณาเขตดูแลประเทศยูเครนด้วย  ได้เผยแพร่ประกาศสถานเอกอัครราชทูตฯ เรื่องการดูแลคนไทยในยูเครนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า  ตามที่วันนี้ (24 ก.พ.) ได้เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนสูงขึ้นและมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนไทยในยูเครนมากขึ้นนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ขอแจ้งชาวไทยในยูเครนว่าเช้าวันนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชุมกับกระทรวงการต่างประเทศ และประชุมกับกลุ่มนายจ้างคนไทยในยูเครน เพื่อประเมินสถานการณ์และดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและเร่งด่วนที่สุด ทั้งนี้มีคนไทยในยูเครน จำนวน 253 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในร้านนวดหรือสปาไทย

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน ที่เมืองลวิฟ (โรงแรม Цісар หรือ Tsisar ที่อยู่ Horodotska St, 65, Lviv, Lviv Oblast, Ukraine, 79000) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ก.พ.2565 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปประจำ เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวของคนไทยในยูเครนที่จะเดินทางออกมาจากเมืองต่างๆ ที่มีเสี่ยงต่อความปลอดภัย และเป็นศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน ทั้งนี้ เมืองลวิฟจะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยในยูเครนจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยโดยเครื่องบิน (จากเมืองลวิฟหรือเข้าโปแลนด์) หรือเดินทางกลับที่อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน

และขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังติดต่อนายจ้างในเมืองต่างๆ โดยตรงเพื่อประเมินสถานการณ์และพัฒนาการความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเตรียมยานพาหนะสำหรับการเดินทางไปยังเมืองลวิฟ เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยที่ต้องการจะเดินทางมาเมืองลวิฟสามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้มีคนจำนวนมากเดินทางไปยังเมืองอื่นโดยรถยนต์ส่วนตัว เริ่มมีการปิดถนนข้ามเมืองบางสาย ระงับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ (เครื่องบิน รถไฟ) บริษัทรถเช่าทั้งในยูเครนและโปแลนด์ยังไม่กล้าที่ให้บริการในขณะนี้ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้มีรถบัสไปรับคนไทยในเมืองหลักต่าง ๆ โดยทันทีเมื่อสถานการณ์อำนวย

ในระหว่างนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้นายจ้างดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของลูกจ้างคนไทยอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น เตรียมเอกสารเดินทาง ฯลฯ รวมทั้งหายานพาหนะที่สามารถหาได้ในพื้นที่ในกรณีที่จำเป็นต้องนำลูกจ้างคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าและการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งชาวไทยในยูเครนโดยทันที