เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวจากสมาชิกผู้ใชเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 26 ก.พ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ตนเองนั้นโดนมิจฉาชีพหลอก ทำให้ติดค้างเป็นคดีฉ้อโกงกับบุคคลอื่น และมีความสูญเสียมากกว่า 1 แสนบาท โดยระบุข้อความว่า

“สวัสดีครับ ผมxxx และได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ผมโดนมิจฉาชีพหลอก ทำให้ติดค้างเป็นคดีฉ้อโกงกับบุคคลอื่น ความสูญเสียมากกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ผมเรียบเรียงปะติดปะต่อมาได้ดังต่อไปนี้ เนื่องด้วยในช่วงนี้ครอบครัวของผมค่อนข้างจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง และพ่อผมทำงานอยู่เพียงแค่คนเดียว ผมจึงมีความคิดที่อยากจะช่วยหางานพาร์ทไทม์ทำ เผื่อจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของทางบ้านได้บ้าง

ทำให้เมื่อสองวันที่แล้ว ( 24 กุมภาพันธ์ 2565 ) ผมได้เข้าไปในกลุ่มหางานจังหวัดสงขลา และเจองานงานหนึ่ง โดยต้นโพสต์ได้ชี้แจงรายละเอียดว่าเป็นงานเกี่ยวกับการชำระบิล เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ ผ่านทางเซเว่นอีเลฟเว่น และแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์ โดยจะมีเงินจากทางบริษัทโอนเข้ามาให้ จากนั้นให้ผมไปชำระบิล ผมเห็นว่าเป็นงานที่ทำผ่านทางโทรศัพท์ได้ เลยติดต่อไป โดยเขาก็ได้บอกรายละเอียดงาน ว่าเป็นการทำงานเกี่ยวกับชำระบิลต่าง ๆ เหมือนที่ผมได้บอกไว้ข้างต้น

หลังจากนั้นเมื่อวาน ( 25 กุมภาพันธ์ 2565) ตอนเช้าตรู่ เขาก็ให้ผมได้ลองทำงาน โดยเขาแจ้งว่า จะเหมาค่าคอมมิชชั่นให้ก่อน เพราะเป็นการทดลองงานช่วงแรก ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าบริษัทโอนเงินเข้าบัญชีของผม แล้วให้ผมกดเงิน เพื่อไปซื้อบัตรทรูมันนี่ และส่งเลขบัตรให้เขา เพื่อเขาจะได้นำไปชำระบิลให้กับทางลูกค้า ผมก็ได้ลองทำ และทำไปประมาณ 6-7 งาน ซึ่งก็ยังไม่มีความผิดปกติใด ๆ จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ผมได้เข้าแอพพลิเคชั่นธนาคารของผม เพราะต้องการจะกดเงินเพื่อไปทานข้าว แต่ไม่สามารถทำรายการได้ จึงได้โทรฯ สอบถามทางธนาคาร จนได้ทราบว่าบัญชีของผมได้โดนอายัดไปแล้ว

และสอบถามต่อจนได้ความว่า ทางตำรวจได้สั่งอายัดบัญชีไว้ ผมจึงได้โทรฯ ไปสอบถามทาง สภ. ที่สั่งอายัดบัญชี ทาง สภ. ได้แจ้งว่า มีคนสั่งของแล้วโอนเงินเข้ามาบัญชีของผม แล้วไม่ได้ของ จึงเข้ามาแจ้งความไว้ ทำให้ผมทราบว่า ผมและผู้เสียหายรายอื่น โดนขบวนการมิจฉาชีพหลอกแล้ว และเงินที่โอนผ่านบัญชีผม เพื่อให้ผมไปชำระบิล โดยการซื้อบัตรทรูมันนี่นั้น ไม่ได้เป็นเงินของบริษัท แต่เป็นเงินของผู้เสียหายรายอื่น ซึ่งในขณะนี้ มีผู้เสียหายที่โอนเงินผ่านบัญชีของผมกว่า 7 ราย และยอดเงินรวมกว่าแสนบาท

ผมจึงได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองสงขลา เพื่อแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าทำให้ได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น ไม่สามารถช่วยให้ผมหลุดพ้นคดีได้ เพราะเงินผ่านบัญชีของผมโดยตรง จากนั้นผมจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งทางศูนย์ได้บอกให้เตรียมหลักฐานให้ได้มากที่สุด แต่ยังไม่ได้บอกว่าต้องปฏิบัติอย่างไรต่อ

ซึ่งด้วยตัวผมเองเป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อายุเพียง 19 ปี อีกทั้งครอบครัวของผมก็ไม่ได้มีฐานะ ผมไม่มีเงินพอที่จะมาชดเชยให้กับผู้เสียหายได้ครับ ผมไม่อยากเสียอนาคต เสียโอกาสทางการศึกษา ผมได้ปรึกษากับทางครอบครัวและคนรู้จักแล้ว แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง จะมีที่ไหนสามารถตรวจสอบหรือช่วยเหลืออะไรผมได้หรือไม่และหากสามารถทำได้ ผมจะต้องติดต่อหน่วยงานไหนเพิ่มเติม หรือทำอย่างไรบ้าง

ผมจึงอยากใช้โพสต์นี้ เป็นสื่อที่ร้องเรียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือใครที่พอจะสามารถช่วยเหลือผมได้ ขอความช่วยเหลือ หรือแนวทาง คำปรึกษาให้เด็กคนนี้พ้นจากสิ่งที่ไม่ได้ก่อ และได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง รบกวนทุกคนช่วยแชร์ด้วยนะครับ เผื่อพอจะมีแนวทางในการแก้ไขได้ และเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น จะได้ไม่พลาดเหมือนตัวของผม ขอบคุณครับ

สำหรับในส่วนของแชต ทางมิจฉาชีพได้ให้ผมลบในตอนทำงานอยู่ แต่ผมได้บันทึกภาพหน้าจอไว้ส่วนใหญ่ และในส่วนของสลิปต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพให้ฉีกทิ้ง ผมได้มีการเก็บไว้เป็นพยานเอกสารเรียบร้อยแล้วครับ”..