เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คนไทยจากประเทศยูเครน 38 คน โดยสารเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923 เดินทางจาก Frankfurt ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” โดยเมื่อคนไทยทั้ง 38 คน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เข้ารับการตรวจ RT-PCR ตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นรับของว่างและเครื่องดื่ม แล้วเดินขึ้นรถบัส 2 คัน ที่จอดรออยู่บริเวณด้านหน้าประตู 6 เพื่อเดินทางไปกักตัวที่สถาบันบำราศนราดูรระหว่างรอผลตรวจ ก่อนเข้าโครงการ Test and Go

นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงศุล กล่าวว่า วันนี้เป็นการต้อนรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศยูเครน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพาคนไทยกลับบ้านตามมาตรการควบคุมโรคในการป้องกันโควิด-19 สำหรับคนไทยในประเทศยูเครนมีจำนวนไม่มาก โดยส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ทำอาชีพพนักงานนวดและสปา ประมาณ 250 คน วันนี้ช่วงเช้า มีการส่งคนไทยกลับสู่ประเทศจำนวน 38 คน และช่วงเที่ยงอีก 58 คน และในวันพรุ่งนี้มีการส่งเพิ่มเติมอีก 38 คน

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีการนำคนไทยออกมาแล้วอย่างน้อยร้อยละ 90 ส่วนคนไทยที่ยังค้างอยู่ ไม่ได้ประสงค์ที่จะเดินทางกลับ เพราะบางส่วนมีครอบครัวอยู่ที่นั่น และมีปัญหาด้านเอกสาร รวมถึงปัญหาเรื่องการเดินทางที่ไม่สะดวก เนื่องจากความปลอดภัยสำคัญที่สุด จึงมีคำแนะนำให้คนไทยส่วนนั้นอยู่ในที่พัก หากสถานการณ์ดีขึ้น จึงจะให้เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยต่อไป

เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่เมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ที่ถูกโจมตีอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า คนไทยในเมืองดังกล่าวมีการอพยพมาหมดแล้ว และเตรียมเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคนไทยที่ได้เดินทางกลับชุดนี้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย.