ย่างเข้าเดือน มี.ค. พุทธศักราช (พ.ศ.) 2565 หรือเทียบเท่ากับรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) 241 การเมืองไทยเดินมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ

เกิดเหตุการณ์ 2 เรื่อง ที่ส่งสัญญาณหน้ากระดานการเมืองไทย อาจถึงเวลาเปลี่ยนแปลง!

(1) เหตุการณ์แรกที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง มีมติ 22 ต่อ21 เสียงเลือก สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นประธาน กมธ.วิสามัญ คะแนนเฉือนชนะ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซามูไรกฎหมายตัวสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

‘หมอตี๋’ ได้รับเสียงสนับสนุนจาก กมธ. ในซีกพรรค ประชาธิปัตย์, พรรคภูมิใจไทย และฝ่ายค้าน ส่วน ไพบูลย์ ซามูไรกฎหมาย ได้รับเสียงสนับสนุนจากซีก พลังประชารัฐ และ ส.ว.

ประเด็นที่น่าสนใจคือก่อนการลงมติ “บิ๊กบราเธอร์ ” พี่ใหญ่กลุ่ม 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศส่ง ไพบูลย์ นั่งประธาน กมธ.วิสามัญ

แต่ท้ายที่สุด ‘หมอตี๋’ จากพรรค ปชป. กลับเป็นม้ามืด เฉือนชนะเข้าวิน นั่งหัวโต๊ะ คุมการแก้กฎ-กติกา-มารยาทระบบเลือกตั้ง เปลี่ยนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส.ส.เขต 400 ปาร์ตี้ลิสต์ 100

เท่ากับเป็นการรวมหัวฉีกหน้าพี่ใหญ่ กลุ่ม 3 ป. แบบตรงๆ!

(2) เหตุการณ์ที่สอง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย อดีตเส้นเลือดใหญ่หัวใจรัฐบาล ส่งสัญญาณท้ารบไปถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลโดยตรง

ผู้กองธรรมนัส ย้ำจุดยืนพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นกองกำลังอิสระไม่ขึ้นตรงกับรัฐบาลและพร้อมส่งคนชิงเก้าอี้ ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องมีเคมีที่เข้ากันได้

สำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัยประชุมหน้าช่วงเดือน มิ.ย.ที่ฝ่ายค้าน จองกฐินถล่ม พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ผู้กองธรรมนัส ประกาศชัดเจน “เราจะยืนอยู่ฝ่ายประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปรายและมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราโหวตสวนแน่นอน”

ในช่วงท้าย ผู้กองธรรมนัส ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกระแสข่าวรัฐบาลมี 260 เสียงหนุนในสภาว่า “260 เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใครแต่เอาตัวเลขมาจากไหน ใครๆ ก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน ตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร รวมถึงไม่ค่อยได้คุยกับใครด้วย เพราะเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด”

ทั้งหมดทั้งมวล มันสะท้อนให้เห็น สัจธรรมประจำโลก ที่เรียกว่าโลกธรรม 8 ประการ ที่ครอบงำสัตวโลกทุกตัวตน แบ่งออกได้เป็น 4 คู่

1.ได้ลาภ-เสื่อมลาภ

2.ได้ยศ-เสื่อมยศ

3.ได้รับสรรเสริญ-ถูกนินทา

4.ได้สุข-ตกทุกข์ทรมานกาย ใจ

ตามปกติวิสัยของสัตว์โลก เมื่อได้ลาภ มักเพลิดเพลินขาดสติปัญญา, เมื่อมียศมักหยิ่งผยอง, เมื่อได้รับคำสรรเสริญ มักหลงตัวเอง และเมื่อได้สุข มักทำให้ใช้ชีวิตประมาท

ความเสื่อมสลายข้างต้น มีลักษณะแปรผันตามอกุศลกรรมที่ทำในอดีต

นาทีนี้อำนาจ-บารมีกลุ่มพี่น้อง 3 ป. กำลังเป็นไปตามโลกธรรม 8 ประการ กลุ่มก๊วนต่างๆ ส่งสัญญาณท้าทาย อยากลูบคมประลองกำลัง หลังกลุ่ม 3 ป. คุมอำนาจบริหารประเทศยาวนาน 8 ปี!

ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง