เมื่อเวลา 11.39 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ กล่าวถึงปัญหาเรื่องการซื้อเรือดำน้ำ ว่าอย่างที่ทุกคนพอทราบข่าวขอเรียนว่าจะทำให้ดีที่สุด และได้แจ้งทางฝ่ายจีนไปว่าขอยืนยันตามสัญญาทุกประการ เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและกองทัพเรือเป็นสำคัญ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด

ส่วนกองทัพเรือยืนยันในเครื่องยนต์ MTU แต่เยอรมนีไม่ขายให้จีน ได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรนั้น เราได้ยืนยันกับทางจีนไปว่าเราปฏิบัติตามสัญญา ส่วนถ้าเครื่องยนต์เป็นการผลิตของจีน แต่สเปกใกล้เคียงกัน จะยอมรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันไปแล้วว่าต้องเป็นเครื่องยนต์ MTU 396 ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน ระบุว่าบริษัท csoc จากจีนส่งผู้จัดการโครงการและผู้บริหาร 4 คนมาคุมงานก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ แต่พบข้อมูลว่าเป็นครูสอนภาษาจีนนั้น ตนขอย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพเรือชี้แจงไปแล้ว ขอไม่ให้ข่าวซ้ำ แต่มีนาย Lang Qingxu เป็นผู้บริหารโครงการ และมีนายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ ซึ่งเป็นคนไทย ส่วนบุคคลอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่าหากฝ่ายจีนดำเนินการไม่ได้ สามารถเรียกค่าปรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่าอยู่ในสัญญาเรียบร้อย แต่ยังไม่ไปถึงขั้นนั้นขอให้ใจเย็นๆ พร้อมยอมรับปัจจุบันสัญญาการส่งมอบได้เลื่อนออกไปเป็นเดือน พ.ค.67 เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งขอเลื่อนมา 6 เดือนแล้ว

เมื่อถามต่อว่า ถ้ามันไม่ได้ แล้วขอเลื่อนไปเรื่อยๆ จะมีแผนรองรับอย่างไร เพราะเป็นเรือดำน้ำลำแรกของไทยที่จัดซื้อ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่าเราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด เราอยากได้เรือดำน้ำมาใช้ เพราะเป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ซึ่งยุทธศาสตร์ของชาติต้องมีเรือดำน้ำ

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าจีนเสนอเรือดำน้ำมือสองมาให้ จะพิจารณาอย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบตรงนี้ เพราะยังเป็นแค่ข่าว ยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากฝ่ายจีน ส่วนที่ฝ่ายค้านโจมตีเรื่องเรือดำน้ำบ่อยๆ นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

เมื่อถามอีกว่าน้อยใจหรือไม่ จะซื้อเรือดำน้ำก็มีอุปสรรค เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ เราคงน้อยใจไม่ได้ คงต้องสู้ต่อไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของชาติและยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ส่วนมีโอกาสหรือไม่ที่จะยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ฝ่ายไทยและฝ่ายจีนคงต้องมาพูดกันว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร ถ้าถามว่ากองทัพเรืออยากได้เรือดำน้ำหรือไม่ เราอยากได้เรือดำน้ำแน่นอน 100% ส่วนจะอยากได้แบบไหนก็คงต้องตอบว่า อยากได้ตามสัญญาที่ลงนามเอาไว้ทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ปัญหาเรื่องของเครื่องยนต์จะทำให้เกิดความล่าช้าอีกหรือไม่นั้น เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ก็คงต้องรอดูต่อไปแต่ในภาพรวมของการต่อเรือดำน้ำ คืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว และที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตในการก่อสร้างถ้าจอดเรือดำน้ำนั้น คงไม่มีผลกระทบอะไร เพราะการตามสัญญาขนาดนี้ก็เดินหน้าก่อสร้างต่อไป

ทางด้าน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ถึงปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำล่าช้าจะมีการดำเนินการต่ออย่างไร ว่าจะทำให้ดีที่สุด หาหนทางให้ดีที่สุด และมีแผนรองรับ