เมื่อวันที่ 3 มี.ค. รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7 ที่ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” โดยวันนี้มีการเชิญ แอนนา-วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนสนิท แตงโม-นิดา รวมถึง ทนายนิด้า-ศรันยา หวังสุขเจริญ และ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล มาพูดคุยประเด็นที่สังคมยังไม่คลายปมสงสัยในหลายประเด็น กรณี ดาราสาวสวย แตงโม-นิดา ตกเรือกลางเจ้าพระยาเสียชีวิตหลัง กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

‘แอนนา’ เปิดหมดเปลือก แฉนาที ‘กระติก’ โวยตายทั้งทียังทิ้งภาระไว้!

โดยบางช่วงของรายการ ทนายนิด้า-ศรันยา หวังสุขเจริญ ทนายความชื่อดัง เปิดเผยว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการปัสสาวะเกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นการสร้างสตอรี่ขึ้น ซึ่งหากเจ้าหน้าที่เชื่อที่เขาอ้าง คดีขึ้นไปสู่ศาล แล้วสิ่งที่เขาอ้างฟังขึ้น ก็จะไม่มีใครต้องรับผิดเรื่องใหญ่ๆ สตอรี่ที่เขาสร้างขึ้น เขาพยายามผลักภาระให้แตงโม ว่าแตงโมเป็นคนตกไปเอง เขาพยายามหาเหตุผลว่าทำไมแตงโมไปปัสสาวะขึ้นมา เรื่องนี้เชื่อเลยว่ามีการเตี๊ยมกันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องสืบต่อไปว่าเตี๊ยมกันเพื่อปกปิดเรื่องอะไร และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลักให้ใครรับผิดไปคนเดียว แต่ก็ไม่แน่ คดีมันยังไม่นิ่ง เพราะตอนนี้เรื่องถูกถ่ายทอดออกไปหลายเวอร์ชั่นมาก ณ วันนี้มันจวนตัวแล้ว สุดท้ายแล้วถ้าในกลุ่มมีคนทรงอิทธิพลจริง ถ้าจะทิ้งให้ใครรับผิดไปสักคน ก็อาจเป็นไปได้

ทนายนิด้า ยังตั้งข้อสังเกตเรื่อง ข้อความแชตไลน์ที่ตอบกลับแอนนาว่า เขาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่แตงโมตกเขายังไม่แจ้งกู้ภัย เขาวนหาด้วยตัวเองก่อน ไม่อยากละสายตา เขาบอกว่าใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาณครึ่ง ชม. พอมันไม่มีฟีดแบ็กกลับมาเลยแจ้งกู้ภัย ทีนี้ถ้าเอามาเทียบกับไทม์ไลน์ของกู้ภัยวชิระ มีการแจ้งเหตุตอน 22.49 น. หากย้อนกลับไปครึ่ง ชม. แสดงว่า แตงโมต้องตกเรือไปตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่าๆ แล้ว แล้วอย่างนั้น เวลา 22.21 น. ใครเป็นคนตอบแชตแอนนา ส่วนเรื่องภาพถ่ายสะพานพระราม 8 ที่ตอนนี้ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยกันว่า ถ้าไฟสะพานปิดตอน 3 ทุ่ม แล้วทำไมในภาพไฟยังเปิดอยู่ และ จนท.ก็ออกมายืนยันว่าวันดังกล่าวไฟปิดตอน 3 ทุ่ม แถมมีคลิปภาพวงจรปิดร้านอาหารบริเวณนั้นที่ถ่ายติดสะพาน ก็พบว่าไฟสะพานถูกปิดไปแล้ว จะอ้างว่าเป็นการถ่ายภาพในโหมดไนต์โหมดจะทำให้ภาพสว่างขึ้นทั้งหมด แต่ไม่ได้ทำให้สว่างบางจุด แต่ภาพนั้นที่มีการโชว์ออกมา ไม่แน่ใจว่าถูกปรับแต่งหรือยัง หรือมีการปรับแต่งมาแล้วให้เมีการสว่างบางจุด และยังมีคนตั้งข้อสังเกตอีกว่า เจ้าของอู่เรือเคยให้สัมภาษณ์ว่า คนบนเรือโทรฯ มาบอกให้ช่วยตามหาโมหน่อย ตอนเวลา 22.20 น. แล้วใครเป็นคนตอบแชตแอนนา ตอน 22.21 น.

ขณะที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล มีความเห็นว่า “ไม่เชื่อเหมือนกันที่แตงโม จะไปปัสสาวะท้ายเรือจริง และนอกจากนี้ เชื่อว่าหากมีการทิ้งเวลานานไปกว่านี้ ไม่มีการนำตัวคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ อาจจะจับพิรุธได้น้อยลง เมื่อมีข่าวแตงโมตกน้ำเสียชีวิต ผมคุยกับคนข้างในว่า น้องกระโดดน้ำไปเอง หรือ โดนผลักตกน้ำ และเมื่อมองลงไปว่า ประจักษ์พยานเหลือ 5 ชีวิต 1 ชีวิตเสียไปแล้ว คนหนึ่งเป็นนักธุรกิจ รู้จักกับบิ๊กที่ปรึกษาระดับประเทศ คนต่อมา นักธุรกิจ อยู่ในวงการพูดน้ำไหลไฟดับ ใครพูดก็ต้องเชื่อ ผู้ชายอีกคนเป็นลูกน้องของนายคนนี้ ส่วนผู้หญิงอีก 2 คนที่เหลือก็อย่างที่ทราบ ฉะนั้นน่าจะเดาทางได้ ที่ผมรู้มาคือน่าจะมีตัวละครมากกว่านี้ และมีบิ๊กผู้ใหญ่คนหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และจากคำให้การที่ผ่านมา ยิ่งให้การมากขึ้นก็ยิ่งมีพิรุธ ประเด็นตกเรือเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ถ้าคุณจะปัสสาวะก็แค่บอกให้เขาเทียบท่า คุณนั่งสปีดโบ๊ตนะไม่ได้นั่งเรือจ้าง และยิ่งแตงโมเป็นนักแสดง เขาคงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อขนาดนั้น ผู้ชายบนเรือก็ไม่ได้รู้จักกัน เรือลำนี้ใครเคยขึ้นก็ต้องทราบ แมวตกเรือก็ยังเห็นเลย เป็นเพื่อนกัน ไปด้วยกัน ผู้หญิงตกน้ำทั้งคน ไม่เห็นมีใครตัวเปียกสักคน หรือใส่ชูชีพโดดลงไปช่วย ไม่มีเลยสักคน เรื่องนี้ถ้ามีคนหนึ่งรับผิด รับรองโดนรวบทุกคน”

นายสันธนะ คาดว่าวันนั้น ที่ออกเรือไปดินเนอร์ เปิดไวน์ กินข้าวเสร็จ ล่องเรือ พอได้ที่ก็คงมีการพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นตัวเองของน้องแตงโม เขาคงสวนกลับขึ้นมาว่า ฉันไม่ใช่อย่างนี้นะ แล้วบิ๊กผู้ใหญ่ที่อยู่ที่ห้องโรงแรมหรูริมน้ำ คงรอเมื่อไหร่จะเทียบท่าสักที ดึกกว่านี้อาจหัวแตกได้ ในวันเกิดเหตุจริงๆ ต้องอายัดเรือ ตรวจร่างกายทุกคน แต่กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป พยานหลักฐานก็ได้ถูกทำลายไปจนเกือบสิ้นแล้ว มันมีสัญญาณตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว ตั้งแต่ที่เขาพูดว่าเพื่อนตกเรือ แต่พอตี 3 ก็แยกย้ายกันไปแล้ว ไม่ดูเพื่อนเลย.