สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของยูเครนรายงานการเกิดเพลิงไหม้ ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ซาโปริชเชีย” ( Zaporizhzhia ) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนเปอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เมื่อช่วงรุ่งสางของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น


ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจน ว่าต้นเพลิงอยู่ที่ใดและเกิดขึ้นได้อย่างไร ขณะที่ นายดมิโทร คูเลบา รมว.การต่างประเทศของยูเครน เรียกร้องกองทัพรัสเซียซึ่งยึดครองโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไว้ได้ เปิดทางให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกำหนดพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งขอให้ประชาชนอพยพ


ด้านทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ออกแถลงการณ์ว่า กำลังติดตามสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าซาโปริชเชียอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงของระดับกัมมันตรังสี โดยก่อนเกิดเหตุเพียงวันเดียว นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการไอเออีเอ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่การสู้รบเกิดขึ้น ท่ามกลางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดใหญ่เช่นนี้ ขอให้ยูเครนและรัสเซียร่วมกัน คุ้มครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทุกแห่งในยูเครน


ปัจจุบัน ยูเครนมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังดำเนินงานอยู่ 4 แห่ง มีเตาปฏิกรณ์รวมกัน 15 เครื่อง หนึ่งในนั้นคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ประมาณ 2,600 ตารางกิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ซึ่งถูกทิ้งร้างหลังเกิดหายนะนิวเคลียร์ เมื่อปี 2529 ใกล้กับเมืองปรือเปียต ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครนไว้ได้ตั้งแต่วันแรกของปฏิบัติการ คือเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES