สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของยูเครนเผยแพร่แถลงการณ์ ว่าเจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิง บริเวณศูนย์ฝึก ซึ่งเป็นอาคารความสูง 5 ชั้น ตั้งอยู่ด้านนอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ซาโปริชเชีย” ( Zaporizhzhia ) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่โครงสร้างหลักของโรงไฟฟ้า รวมถึงเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 ตัว ไม่ได้รับผลกระทบ และระดับกัมมันตรังสี “ยังคงเป็นปกติ”
Fire put out near Ukrainian nuclear power plant https://t.co/2QFfPPTw6T pic.twitter.com/o8NmqCyEcF
— Reuters (@Reuters) March 4, 2022
#Ukraine tells IAEA that fire at site of #Zaporizhzhia Nuclear Power Plant has not affected “essential” equipment, plant personnel taking mitigatory actions.
— IAEA – International Atomic Energy Agency (@iaeaorg) March 4, 2022
ด้านทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ยืนยันว่า “โครงสร้างและเครื่องมือสำคัญทั้งหมด” ในโรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ และบุคลากรทุกคนภายในสถานที่ ปฏิบัติตามมาตรการในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ตามที่เคยได้รับการฝึกฝนมา
The Zaporizhzhia nuclear power plant released footage early Friday of a bright flaring object landing on the grounds of Europe's largest nuclear plant. pic.twitter.com/epl7GJBeOv
— CBS News (@CBSNews) March 4, 2022
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าซาโปริชเชีย เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนเปอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เป็น 1 ใน 4 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังดำเนินงานอยู่ในยูเครน มีกำลังการผลิตไฟฟ้าคิดเป็น 20% ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้แต่ละวันในยูเครน และอยู่ภายใต้การควบคุมกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 ก.พ. แต่ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักหน่วงในบริเวณนี้
นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ประมาณ 2,600 ตารางกิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ซึ่งถูกทิ้งร้างหลังเกิดหายนะนิวเคลียร์ เมื่อปี 2529 ใกล้กับเมืองปรือเปียต ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครน ไว้ได้ตั้งแต่วันแรกของปฏิบัติการ คือเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : REUTERS