บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้ออกมาย้ำสิทธิพื้นฐานของการตรวจข้อมูลเครดิตของตนเอง ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเอง เพื่อให้ทราบประวัติทางการเงินของตนเองในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิต ช่วยให้รู้เท่าทันและป้องกันกลลวงภัยการเงินไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

ทางด้าน “สุรพล โอภาสเสถียร” ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร บอกว่า เครดิตบูโรมุ่งพัฒนาและให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทราบประวัติทางการเงินของตนเองในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูล โดยการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอนั้น จะตรวจเครดิตบูโรกี่ครั้งก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาขอกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิทธิพื้นฐานในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเอง

รวมทั้งช่วยให้รู้เท่าทันและป้องกันกลลวงภัยการเงินไซเบอร์ที่เกิดขึ้น ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนขอกู้จากสถาบันการเงินอีกด้วย ปัจจุบันเครดิตบูโรเพิ่มช่องทางการตรวจข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่งอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลเพิ่มมากขึ้น นับว่าเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในสังคมยุคดิจิทัล

ข้อดีของการตรวจเครดิตบูโร คือ

1) ช่วยเช็กว่าเรามี “หนี้งอก” โดยที่เราไม่ได้ก่อหรือไม่

2) เช็กว่าข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลเครดิตถูกต้องตามความจริงหรือไม่

3) ข้อมูลสินเชื่อของเราถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องสามารถขอแก้ไขได้

4) เช็กให้ชัวร์ว่าเรามีประวัติค้างชำระหรือไม่

5) เช็กหลังจากที่จ่ายหนี้หมดแล้ว สถานะข้อมูลเครดิตขึ้นเป็นปิดบัญชี ยอดหนี้เป็นศูนย์ถูกต้องหรือไม่

6) การเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ

ตรวจเครดิตบูโรได้ที่ไหนบ้าง? 1) ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร แบบรอรับรายงานได้ภายใน 15 นาที ใช้บัตรประชาชนของตนเอง ได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่) อาคาร 2 ชั้น 2 หรือเครดิตบูโร คาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 หรือสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หมอชิต และชิดลม (ภายในสถานี) ท่าวังหลัง และห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 3

2) โมบายแอพพลิเคชั่น (แอพ) เลือกรับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมล แบบรับรายงานได้ทันที ผ่านแอพ “KKP Mobile” (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) หรือเลือกแบบรับรายงานภายใน 24 ชั่วโมง ผ่านแอพ “Krungthai NEXT” (ธนาคารกรุงไทย) แอพ “MyMo” (ธนาคารออมสิน) หรือเลือกรับรายงานภายใน 3 วันทำการ ผ่านแอพ “ttb touch” (ธนาคารทีทีบี)

3) แบบส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 7 วันทำการ ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร (ทุกสาขา) กรุงไทย กรุงศรี ธอส. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ ธ.ก.ส. หรือใช้บัตร ATM กรุงไทย ไทยพาณิชย์ หรือผ่านธนาคารออนไลน์ กรุงไทย กรุงศรี หรือเคาน์เตอร์บริการที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

4) ตรวจข้อมูลเครดิตแบบสรุป (ฟรี) ผ่านแอพ “ทางรัฐ” หรือตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) หรือตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) ทุกแห่ง (สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หมอชิต ชิดลม (ภายในสถานี) สถานีกลางบางซื่อ ท่าวังหลัง และชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน กรุงเทพฯ) หรือที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ncb.co.th หรืออีเมล [email protected]