เมื่อวันที่ 7 มี.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนายอิสสระ สมชัย และนายชุมพล จุลใส กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 และวันที่ 8 ธ.ค. 2564 ตามลำดับ โดยบุคคลทั้ง 2 เป็นอดีตแกนนำ กปปส. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากต้องคำพิพากษาของศาลอาญาให้จำคุกและถูกตัดสิทธิทางการเมือง มีรายละเอียดังนี้

ด้านนายอิสสระ พร้อมด้วยนางนวลนรา สมชัย คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 41,805,342 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยในส่วนของ นายอิสสระ แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 11,430,063 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 1,757,013 บาท, เงินลงทุน 2,110,049 บาท, ที่ดิน 4,910,000 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท บ้าน 2 ชั้นในพื้นที่ หลักสี่ กทม., ยานพาหนะ 440,000 บาท, ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 213,000 บาท ซึ่งเป็นอาวุธปืนทั้งหมด 6 รายการ ปืนเดี่ยวลูกซอง 1 กระบอก, ปืนสั้นออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. 2 กระบอก, ปืนยาวลูกกรด 1 กระบอก, ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก และปืนสั้นลูกโม่ 1 กระบอก เป็นต้น

ส่วนคู่สมรสแจ้งว่ามีทรัพย์สิน 21,507,979 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 621,547 บาท, เงินลงทุน 45,064 บาท, เงินให้กู้ยืม 600,000 บาท, ที่ดิน 14,890,100 บาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5,131,268 บาท เป็นบ้านพร้อมโกงดัง บ้านคอนกรีต 2 ชั้น ห้องแถวและตึกแถวในโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นต้น, ยานพาหนะ 200,000 บาท, ทรัพย์สินอื่น 20,000 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 8,867,300 บาท เป็นที่ดิน 7,467,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,400,000 บาท

ทั้งนี้ นายอิสสระ ยังแจ้งว่ามีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2,295,900 บาท เป็นเงินเดือนประจำตำแหน่ง 854,760 บาท, เงินเพิ่มประจำตำแหน่ง 507,960 บาท, เบี้ยประชุม 20,000 บาท, ค่าเช่าตึกแถว 213,180 บาท, ขายยางพารา 250,000 บาท, ขายปาล์ม 400,000 บาท, ขายข้าว 50,000 บาท, มีรายจ่ายรวม 700,000 บาท ส่วนคู่สมรสแจ้งว่าไม่มีรายได้ แต่มีรายจ่าย 300,000 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค

สำหรับนายชุมพล พร้อมด้วยนางวันทณี จุลใส คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 188,096,925 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 67,998,504 บาท โดยในส่วนของ นายชุมพล แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 25,696,642 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 30,642 บาท, ที่ดิน 22,000,000 บาท, สิทธิและสัมปทาน 2,465,000 บาท, มีหนี้สิน 17,393,789 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 7,393,789 บาท หนี้สินอื่น 10,000,000 ล้านบาท

ส่วนคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 161,378,223 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 1,380,435 บาท, เงินลงทุน 500,000 บาท โดยลงทุนร้านชุมพรรังนก, ที่ดิน 90,800,000 บาท โดยเป็นที่ดินรวมกว่า 17 รายการ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร และเขตบางคอแหลม เขตบางแค กทม. เป็นต้น, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 46,000,000 บาท โดยเป็นอพาร์ตเมนต์ ใน อ.เมือง จ.ชุมพร มูลค่า 40,000,000 บาท นอกจากนั้นเป็น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด และห้องแถว ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นต้น, ยานพาหนะ 1,150,000 บาท, สิทธิและสัมปทาน 21,547,788 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 1,023,059 บาท เป็นเงินฝาก 1,159 บาท, สิทธิและสัมปทาน 1,021,900 บาท

ทั้งนี้ นายชุมพลยังแจ้งอีกว่า มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,593,503 บาท เป็นเงินเดือน และเงินเพิ่ม ส.ส.ทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 300,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนคู่สมรส แจ้งว่า มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 7,727,000 บาท เป็นรายได้จากสวนทุเรียน 6,000,000 บาท, รายได้จากค้าขายและให้เช่า 1,727,000 บาท, มีรายจ่ายรวม 4,046,400 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 400,000 บาท, ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา 600,000 บาท, ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท, ค่าเบี้ยประกัน 1,000,000 บาท, ค่าผ่อนบ้าน 600,000 บาท, เงินเดือนพนักงาน 446,400 บาท.