ยังคงเกาะติดประเด็นการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แถมชาวโซเชียลยังมีประเด็นใหม่ผุดขึ้นมาทุกวันและล่าสุด ปอ กับ โรเบิร์ต 2 คนใน 5 คนที่อยู่บนเรือในวันที่สาวแตงโมเสียชีวิตได้ติดต่อวัดดังเพื่อต้องการบวชให้นักแสดงสาว งานนี้ทนายดัง ทนายเดชา และ อ้วน รีเทิร์น คนที่สาวแตงโมสนิทและเรียกว่าคุณแม่มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ show พร้อมร่ำไห้สุดเสียใจอีกด้วย

ทนายเดชา เผยว่า “จดหมายของคุณแม่ตามนั้นแหละครับคุณแม่ เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะว่าลูกความเขาจะจ้างใครเป็นทนายความมันต้องมีการแต่งตั้ง คนที่ไม่ได้แต่งตั้ง พูดง่ายๆ อย่างตั้ม ก็ไม่ต้องไปเผือก เอาจริงๆส่วนใหญ่ผมชื่นชมคุณแม่ตลอด โดยเฉพาะเทคนิกการเรียกค่าเสียหาย แกมีเทคนิกดี ถามว่าทนายอื่นอยากช่วยคดีได้ไหม คือการเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับคดีเนี่ย หมายถึงไปในฐานะตัวแทน หรือไปแทรกแซงการทำงานของทนายกฤษณะอันนี้ทำไม่ได้ มันผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ แต่อย่างผม ผมเป็นคนคนหนึ่งในสังคมที่มีข้อมูลเอาไปส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนได้ ถ้าเป็นประโยชน์กับคดีนะ ทนายที่แม่หามาผมไม่ทราบหรอกครับว่ามาจากไหน แต่เท่าที่ทราบมาเนี่ย คุณแม่พูดหลายรายการทำนองว่ามีตำรวจแนะนำ ทำนองอย่างนั้นนะซึ่งจริงเท็จยังไงเราไม่ทราบ แต่ฝากไปยังพนักงานสอบสวนนะ ต้องเป็นกลางนะ คุณมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน แล้วพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ไม่ใช่มีหน้าที่จัดหาทนายนะ”

“ถามว่าในมุมของทนายคิดว่าคดีนี้พนักงานสืบสวนเป็นกลางไหม ผมว่าอ่านคอมเมนต์ในโซเชียลก็รู้นะ กลางดวงใจใครหรือเปล่า คำว่ากลางมันกลางหลายอย่างนะ(ยิ้ม) แต่ถ้าเขาทำในสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง มันไม่เป็นความจริงก็ต้องมีความผิด เป็นตำรวจก็ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ถ้าประชาชนรู้สึกว่าไม่เป็นกลางเราก็แสดงความคิดเห็นทางโซเชียล แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตได้ ให้สื่อต่างๆ แต่ละช่องกดดัน ชาวโซเชียลแผ่วไม่ได้ ถ้าไม่มีโซเชียลคดีนี้จบไปแล้ว เอาจริงๆมีคดีไหนบ้างล่ะที่พวกเราไม่ด่าแล้วเจ้าหน้าที่ทำงานบ้าง คดี ผผก.โจ้ จำได้ไหม ผมเนี่ยเปิดประเด็น ตั้มเอาคลิปมาปล่อย ถ้าเกิดตั้มไม่เอาคลิปมาปล่อย ตำรวจจะออกหมายจับไหม ทั้งๆ ที่เรื่องเกิดมาตั้งนานแล้ว”

“ผมเคยพูดทุกรายการว่าคดีนี้มันเป็นทฤษฎีสมคบคิด ต่อมาก็สมยอม มันก็เลยจบไง เพราะคดีนี้เราจะไปกล่าวหาใครว่าประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตาย เราต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์ ก็ในเมื่อคนที่อยู่บนเรือ 5 คน มันไปคุยกันที่ปั๊มน้ำมันมันก็จบแล้ว ก็เป็นอุบัติเหตุจะมีเรื่องอะไรล่ะ ก็จบแล้ว แต่ว่าคำถามมันเยอะ แล้วคนก็ด่าตำรวจทุกวันๆ เช้า กลางวัน เย็น ตำรวจก็เลยต้องมาแถลงรายวัน บางคนก็มาตั้งคำถาม แถลงรายวัน โกหกรายวันหรือไม่ เราตั้งคำถามไม่มีความผิด เพราะคนเริ่มสงสัย ถามอะไรก็ความลับในสำนวนทุกวันนี้คดีแตงโม พยานหลักฐานมีแค่บนเรือ แล้วพวกที่เกี่ยวข้องก็มี 5 คนที่เมาไวท์อยู่นั้นแหละ แต่ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่คดีนี้ก็สามารถรื้อได้ แต่เรื่องพี่เขาเขาเปลี่ยนความคิด ถ้าถามผมมันก็เป็นเรื่องภายในครอบครัว อย่างที่ตั้มเขาบอกเลือดเข้มกว่าน้ำ แต่ถ้าถามว่าถ้าตั้มอยากจะช่วยพิสูจน์ความจริงต่อไป ก็ไม่ต้องพักหรอกวันนี้ก็เดินหน้าต่อเลย มีหลักฐานก็ไปส่งตำรวจไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่ต้องไปสนใจ เราไม่ต้องเป็นทนายของใครหรอก เรามีหลักฐานก็ไปส่งมอบพนักงานสอบสวน ทำได้เลย ถ้าตั้มฟังอยู่”

ทนายเดชา เล่าต่อว่า “ตอนนี้ใครที่มีคลิปมีอะไรก็สามารถไปส่งพนักงานสอบสวนได้เลย แต่อย่าลืมก๊อปไว้ชุดนึง เผื่อเกิดหลักฐานหาย ผมยินดีร่วมพิสูจน์คดีนี้ครับ ถ้ามีหลักฐานจริงนะ ไม่ใช่ตัดต่อ พวกที่โพสต์ๆ แชร์ๆ เขาเรียกไปสอบสวนตั้ง 60 คนแล้ว เมื่อกี้ผมคุยกับเพื่อนที่เป็นนักข่าวอาชญากรรม พอหลังจากนี้เดี๋ยวเขาจะดำเนินคดีกับพวกนี้ ที่บอกว่ามีคนนั้น คนนี้ ที่มันไม่จริงเนี่ย ที่เขาเรียกไปสอบสวนเนี่ย เขาไม่ได้ให้เกียรตินะ ตอนแรกๆ คุณจะเป็นพยานก่อน หลังจากนั้นคุณจะเป็นผู้ต้องหาที่เรียกไปสอบสวนทั้งหมด 65 คนรวมถึงร้านอาหาร 3 ที่ แล้วที่ปั๊มน้ำมันที่ไปนั่งสุมหัวกัน แล้วร้านอาหารอิตาเลี่ยน ที่สุขุมวิท แล้วร้าน ม.ที่ราชพฤกษ 3 ร้านนี้เขาไปเก็บกล้องวงจรปิดมาแล้ว เรียกคนในร้านมาสอบ รู้เลยว่าไปคุยกับทนายชื่ออะไร เขามีครบหมดแล้วก็ทำให้มันครบ ประชาชนสงสัย ตำรวจก็สงสัย ดังนั้นประชาชนสงสัยอะไร ตำรวจก็เรียกมาสอบหมด แต่ถามว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีไหม พยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีคือก่อนเกิดเหตุกับหลังเกิดเหตุอันนี้สำคัญ”

“อย่างเรื่องการบวช จริงๆแล้วมันบวชไม่ได้ กฎเถรสมาคมเขาห้ามอุปชา เขาไม่ได้ห้ามคนไปบวชนะ ห้ามอุปชาในการที่จะไปอุปสมบทคือมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว ก็แสดงให้เห็นว่ากฎกติกาในสังคมมันเลือกปฏิบัติได้ไง ตำรวจขับรถชนหมอตาย บวชไม่ได้ กดดันต้องรีบสึก เสี่ยเบนซ์ได้ นี่เจ้าของเรือเป็นไฮโซได้ ก็แล้วแต่ไง ประเทศเราจะอยู่กันแบบนี้หรือเปล่า มันจะกลายเป็นว่ากฎกติกามีข้อยกเว้น เรื่องสารเสพติดของ 1 ใน 5 คนนั้นตำรวจเขาให้สัมภาษณ์แล้วทีวีช่องหนึ่ง เขาบอกว่าพิธีกรไปสรุปเอง ท่านรองบอกแล้วว่าท่านไม่ได้พูด พิธีกรสรุปเองคือท่านไม่ยอมรับ หลังจากนั้นก็ไปอีกช่องนึง แต่ข่าวที่ผมทราบมาลึกๆ จริง เท็จ ยังไงไม่รู้ มันมีคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด แต่ตอนนี้ท่านรองผู้บัญชาการ ท่านอุดร ที่ยังไม่กล้ายืนยันเพราะว่า ผลตรวจสารเสพติดมันยังไม่ออก เขากลัวว่าพูดไปแล้ว แล้วผลออกว่าไม่มีเขาก็ซวย แค่นั้นแหละ เรื่องคุณโรเบิร์ตไปตรวจ DNA แล้วคุณโรเบิร์ตไม่ให้เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่สามารถไปบังคับได้ครับ เนื้อ ตัว บังคับ ไม่ได้ครับ มันเป็นเสรีภาพ แต่ที่คนสงสัยเรื่องเส้นผมเขาไม่ให้ความร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่แปลกนะ คุณแม่ผู้เสียหายก็มีทนาย พี่ชายก็มีทนาย ผู้ต้องหาก็มีทนาย คนที่อยู่บนเรือทุกคนไม่ได้เป็นผู้ต้องหาก็มีทนาย พยานจะไปพบตำรวจยังต้องมีทนายเลย แสดงให้เห็นว่าทุกคนกลัวติดคุกทั้งนั้น”

“ตอนนี้ต้องข้อมูลกล่องดำของเรือ สมองเรือเนี่ยแล้วข้อมูล GPS ของเรือที่ผ่านดาวเทียม 2 ดวง อันนี้มันชัดเลย วิ่งมาความเร็วเท่าไหร่ วนจุดไหน เท่าที่ผมทราบข้อมูลมา มันมีการวนหารอบแรก วนประมาณ 18 รอบ วนนานมากไม่เจอ ใช้เวลานาน เท่าที่ทราบมานะ จริงเท็จยังไงไม่รู้ แต่ข้อมูล GPS มันจะบอกเลยว่าวิ่งมาตรงไหนยังไง ไปทิศทางไหน อันนี้ชัดเจน เสร็จแล้วเอาไทม์ไลน์ใน GPS เปรียบเทียบกับคำให้การของพวกที่อยู่บนเรือทั้งหมด ถ้าไม่ตรงกันพวกนั้นก็คือพวกโกหกตอแหลทั้งนั้นแหละ ก็ตั้งถูกดำเนินคดี”

อ้วน เผยว่า “ที่โมตายฉันไม่โอเคนะ การที่แตงโมเสียชีวิตไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ทำให้แตงโมตาย ด้วยความเป็นแม่จะต้องหาความจริงให้มันถึงที่สุด เพื่อจะได้พิสูจน์รู้ ไม่อย่างนั้นจะตายตาหลับเหรอลูกคนนึงตายไป แล้วไม่อยากพิสูจน์ความจริง แล้วเราจะมีชีวิตได้ยังไงถ้าเราไม่รู้ถึงสาเหตุการตายของลูกตัวเอง ในใจอยากให้ออกมาถูกต้อง มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุ หรือมันอาจจะมีเงื่อนงำอะไรที่ทำให้โมตายไป เชื่อว่าทุกคนในประเทศไทยรับได้ มนุษย์มันต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่มันจะต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าตายเพราะอะไร เป็นอะไรถึงตาย เมา หรือว่ามีอุบัติเหตุ หรือว่าความสะเพร่าอะไรตรงนั้น มันต้องรู้สิ ถ้าไม่รู้เลยเนี่ย แตงโมคือมนุษย์นะ จะไม่รู้ได้ยังไง เราอยากจะรู้ความจริงว่ามันเป็นอะไร”

“ถ้าแม่เขาดูที่ฉันพูดอยู่ อะไรก็แล้วแต่ถ้าเกิดมันเป็นความยุติธรรมของลูกสาวตัวเอง ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่จะเข้ามาช่วยฉันจะปล่อย ปล่อยให้ความจริงมันปรากฏ ถ้าสมมติว่าฉันเป็นแม่แท้ๆ แล้วมีสิทธิ์ใครที่อยากมาช่วยลูกสาวฉันเพื่อความบริสุทธิ์ ฉันจะปล่อยให้เขาทำ เพราะว่าทุกคนที่เข้ามาช่วยแตงโมเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกคนเข้ามาด้วยความรัก แล้วถ้ามันจะจบด้วยทุกคนกลายไปเป็นหมา ฉันว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่รักแตงโม พี่อ้วนไม่ได้มองว่าใครโกหกหรือไม่โกหก แต่มองว่ามันเหมือนความจริงยังไม่เปิดออกมาทุกมุม เพราะถ้าคุณไม่เปิดเผยความจริง ไอความลับจะเป็นบาดแผลในใจคุณไปตลอดชีวิต คุณจะมีความสุขไหม ถ้าเปิดเผยความจริงมามันจะรู้สึกโล่ง เพราะว่าคนถ้าทำไม่ดีหรือว่าทำอะไรที่ปิดบังไว้มันจะกัดกินหัวใจของคนที่ทำชั่วไปจนวันตาย แล้วคนทำชั่วจะมีกรรม พุทธศาสนาหรือคนบนโลกใบนี้ไม่ต้องแช่งหรอกใครที่ทำกรรม เขาจะต้องรับกรรมนั้น ถ้าสมมติว่าทำกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วออกมาเปิดเผยเรื่องราวให้ความยุติธรรมกับศพพี่ว่ากรรมนั้นมันจะเบาบาง ไม่ใช่ว่าทั้งหมดทำผิด หรือไปฟันธงว่าทั้งหมดบนเรือทำผิดแล้วไม่ใช่นะ เพียงแต่ว่าทุกคนสงสัย และความสงสัยตรงนั้นมันก็ต้องมีความจริงออกมา”

“ตั้งแต่รู้จักกับแตงโมมา 10 ปี ยังไม่เคยเห็นแตงโมเมาเลย ขนาดเลี้ยงปิดกล้องยังไม่เมาเลย นางอาจจะมีจิบอะไรต่ออะไร เพื่อสังคม แต่เมายังไม่เคย ถ้าถามว่าไปฉี่ท้ายเรือเชื่อไหม คือแตงโมมีความเป็นสาวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ถามว่าฉันเชื่อไหม ฉันก็ไม่เชื่อว่าแตงโมไปฉี่ได้ แต่ความที่เราไม่เชื่อมันก็อาจจะไปฉี่จริงก็ได้ แต่ว่าฉันไม่เชื่อแค่นั่นเอง ไม่มีวันที่แตงโมจะทำอย่างนั้น ถ้าน้องเดือดร้อน น้องจะปรึกษา แม่ๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือแตงโมเนี่ย แตงโมจะไม่ทำ เพราะมีแม่คอยซัพพอร์ตอยู่หลายคน แล้วแม่แต่ละคนคือรวยหมด แล้วแตงโมถ้าต้องใช้เงินเขาจะบอกแม่เขา แล้วดขาไม่มีวันจะทำอย่างนั้น เพราะว่าแตงโมเนี่ย ถ้าไม่รักไม่ชอบ มึงจะมานั่งใกล้มันยังไม่ยอมเลย เพราะฉะนั้นตรงนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เรื่องรับงานเอ็นไม่มีวันที่แตงโมจะทำอย่างนั้น ถ้าน้องเดือดร้อน น้องจะปรึกษา แม่ๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือแตงโมเนี่ย แตงโมจะไม่ทำ เพราะมีแม่คอยซัพพอร์ตอยู่หลายคน แล้วแม่แต่ละคนคือรวยหมด แล้วแตงโมถ้าต้องใช้เงินเขาจะบอกแม่เขา แล้วดขาไม่มีวันจะทำอย่างนั้น เพราะว่าแตงโมเนี่ย ถ้าไม่รักไม่ชอบ มึงจะมานั่งใกล้มันยังไม่ยอมเลย เพราะฉะนั้นตรงนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”