เมื่อวันที่ 10 มี.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่เครือข่ายสตรีมีข้อเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในวันสตรีสากลวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้างประเด็นวันลาคลอดบุตรที่ปัจจุบันให้ลาได้ 98 วัน แต่การจ่ายค่าจ้างครอบคลุมเพียง 90 วัน เนื่องจากข้อกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลูกจ้างลา แต่ไม่เกิน 45 วัน โดยค่าจ้างอีกครึ่งหนึ่ง (45 วัน) ลูกจ้างรับจากสำนักงานประกันสังคม ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน จึงเห็นได้ว่าจำนวนวันลา 8 วัน ที่เพิ่มขึ้นนั้น ลูกจ้างยังไม่ได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่าจ้าง

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกฯ ได้รับข้อเรียกร้อง และได้ติดตามการปรับปรุงข้อกฎหมาย เพื่อให้นายจ้างและสำนักงานประกันสังคมร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้ครอบคลุมวันลาทั้งหมด 98 วันมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน อยู่ระหว่างดำเนินการให้สำนักงานประกันสังคมเสนอปรับแก้ไขกฎหมายเพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้างโดยจะปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน จากร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน เป็นร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 98 วัน ซึ่งจะมีผลให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างในวันลาเพิ่มขึ้นจากสิทธิเดิม อีก 4 วันในส่วนของค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตรอีก 4 วันกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานประเมิลผลสัมฤทธิ์กฎหมายเพื่อปรับแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้างต่อไป

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานในงานวันสตรีสากลประจำปี 2565 ช่วงหนึ่งยืนยันรัฐบาลพยายามผลักดันความเท่าเทียมของสตรีในทุกมิติเพื่อให้ได้เข้าร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพร้อมระบุว่า “ผมในฐานะเป็นผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว นอกบ้านผู้ชายก็อาจจะเก่งแต่ในบ้านจะเสร็จผู้หญิงหมด ผู้ชายเปรียบเสมือนช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเปรียบเสมือนช้างเท้าหลัง แต่เมื่อมีอุปสรรคช้างต้องถอยหลังต้องใช้เท้าหลังทั้งสิ้น ผู้หญิงถือเป็นผู้ที่มีสติรอบคอบ ดึงกันไปมาช้างก็จะไม่หกล้มเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้ จึงขอให้ทุกคนได้ภูมิใจไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็มีความสำคัญในครอบครัวทั้งนั้น ผู้หญิงเปรียบเสมือนพลังสำคัญที่จะทำให้ประเทศสงบสุข เพราะผู้หญิงเปรียบเสมือนน้ำเย็นที่จะทำให้ทุกอย่างเย็นลง”