เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า มีข้อมูลราชการที่ควรนำไปร้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ว่า มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือถึง ครม.โดยมีความว่า “ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมทั้งปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกันแล้วมีความเห็น โดยสรุปว่า เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 56 วรรคสอง ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเสนอรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่งการตามที่สมควรต่อไปรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย”

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64 ครม.มีมติว่า “ ครม.ได้ประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 ลงมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) และรมว.พลังงาน รับเรื่องนี้ไปจัดการ ร่วมกับเรื่อง การปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน (กรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 56 วรรคสอง ซึ่ง ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 มอบหมายให้ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทรวงการคลังกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ถูกต้อง ตรงกัน และรายงานผลให้ ครม.ทราบ” 

นายเรืองไกร กล่าวต่อมาว่า อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 6 ต.ค.64 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งที่ 40/2564 สรุปได้ว่า   “…เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่าครม.พิจารณาความเห็นของผู้ตรวจการฯ แล้วมีมติครม.เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ถูกต้อง ตรงกัน และรายงานให้ ครม.ทราบ จึงเป็นกรณีที่ครม.ยังมิได้สั่งการเป็นประการใด เพียงแต่มอบหมายให้หน่วยงานพิจารณาและเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.ต่อไป กรณียังไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 45 วรรคหนึ่ง (3) ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา” 

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว เมื่อไปค้นหามติ ครม.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ยังไม่พบข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย และรายงานให้ครม.ทราบ แล้ว หรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือลงวันที่ 10 มี.ค.64 ต่อมา ครม.มีมติวันที่ 15 มิ.ย.64 และจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเมื่อวันที่ 6ต.ค.64 นั้น เป็นมูลเหตุให้น่าเชื่อได้ว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายแต่อย่างใด ซึ่งหลักฐานปรากฏชัดตามที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า “จึงเป็นกรณีที่ ครม.ยังมิได้สั่งการเป็นประการใด เพียงแต่มอบหมายให้หน่วยงานพิจารณาและเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.ต่อไป”

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) คำว่า “ทุจริตต่อหน้าที่” หมายความว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้โดยชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือกระทำการอันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาหรือตามกฎหมายอื่น

นายเรืองไกร  กล่าวสรุปว่า จากข้อเท็จจริงตามเอกสารราชการข้างต้น ประกอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  จึงมีเหตุที่ควรร้องให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบตามหน้าที่และอำนาจต่อไปว่า กรณีดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน อาจเข้าข่ายมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ตามพ.ร.ป. ป.ป.ช. มาตรา 4 ประกอบ รัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่ ดังนั้น ในวันที่ 12 มี.ค. ตนจึงได้ส่งหนังสือพร้อมสำเนาเอกสารราชการที่เกี่ยวข้องไปทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้  ป.ป.ช. ตรวจสอบ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่