สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่า นายโอเล็กซี อาเรสโทวิช ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลอาซอฟ ทางตอนใต้ของยูเครน ว่าการที่กองทัพรัสเซียปิดล้อมเมืองแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อปฏิบัติการทางทหารนั้น ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 2,500 ราย


ขณะที่นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียยิงระเบิดโจมตีเมืองมาริอูโปลไปแล้วมากกว่า 100 ครั้ง สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็น น้ำ ไฟ อาหาร ยารักษาโรค และกระแสไฟฟ้า ไม่สามารถใช้การได้ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินชีวิตของชาวเมือง ซึ่งยังคงตกค้างอยู่ในพื้นที่อีกมากกว่า 300,000 คน


ด้านคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) เรียกร้องให้คู่กรณีทุกฝ่ายร่วมกันเปิดเส้นทางมนุษยธรรม “อย่างจริงจังและเป็นทางการ” เพื่ออพยพประชาชน และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบออกนอกพื้นที่ หลังชาวเมืองมาริอูโปลประมาณ 125,000 คน สามารถเดินทางออกได้ด้วย “ช่องทางมนุษยธรรม” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ เมืองมาริอูโปลมีความสำคัญอย่างมากในสมรภูมิยูเครน โดยไม่เพียงแต่เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่สุด ที่ตั้งอยู่ริมทะเลอาซอฟ เพื่อออกสู่ทะเลดำเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของภูมิภาคโดเนตสก์ และประชากรส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซียด้วย.

เครดิตภาพ : REUTERS