เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมแกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมยื่นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 เรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น และเรื่องที่เตรียมเปิดแคมเปญ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เม.ย. 65

นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่อง การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ว่า ปัจจุบัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเกิดความซ้ำซ้อน ทับซ้อน กับราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนกลางหลายเรื่อง เรานำเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ 40-50 เข้ามา และเพิ่มเติมบทบัญญัติใหม่ ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาเรื้อรังตลอดเกือบ 3 ทศวรรษ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เราเปิดร่างนี้ขึ้นมา แล้วเราจะรวบรวมรายชื่อผู้เชิญชวนทั้งหมด 20 คน เพื่อนำร่างฉบับนี้ไปยื่นต่อประธานรัฐสภา หลังจากนั้นประธานรัฐสภาจะแจ้งกลับมา จากนั้นเราจะเริ่มต้นรณรงค์ล่ารายชื่อทั่วประเทศได้ทันที โดยเราวางกำหนดการณ์ไว้ว่า ในวันที่ 1 เม.ย. 65 เราจะเริ่มเข้าชื่อเป็นวันแรก เชื่อว่าการรณรงค์ของเราในครั้งนี้ จะทำให้การกระจายอำนาจในประเทศไทยเกิดขึ้นได้จริงเสียที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตรเปิดเผยหลักใหญ่ใจความร่างแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 มีทั้งหมด 10 เรื่องที่น่าสนใจ อาทิ เรื่องรับรองและยืนยันว่าในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้บริหาร และสมาชิกสภาท้องถิ่น ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นแบบทั่วไป หรือแบบพิเศษ, เรื่องการสนับสนุน การวางโรดแม็พของประเทศไทย ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค โดยให้ ครม. ไปทำแผนการว่า หากยกเลิกจะต้องทำอย่างไรบ้าง และภายใน 5 ปี ครม. ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ถามประชาชนว่า ต้องการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เป็นต้น

ทางด้านนายธนาธร แถลงเปิดตัวผู้เชิญชวนลงชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 ที่น่าสนใจ อาทิ นายธนาธร, นายปิยบุตร, น.ส.พรรณิการ์, นายเดชรัต สุขกำเนิด ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเพื่ออนาคต หรือ Think Forward Center, นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และนายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา, นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ, นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตทีมกฎหมาย ปชป., นายพริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. ปชป. เป็นต้น

นายธนาธร ยังกล่าวว่า เราจะเปิดแคมเปญให้ เข้าร่วมในร่างแก้ไขฯฉบับนี้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป ภายใต้ชื่อ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” อยากจะขอพลังและความร่วมมือ เข้าชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อปลดล็อกท้องถิ่นและปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนทั้งประเทศไทยไปด้วยกัน ประเทศไทยไม่ใช่ กทม.

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ยุบสภาหรือลาออก การเปิดแคมเปญนี้จะทำอย่างไรต่อ นายปิยบุตร กล่าวว่า ถ้ามีการยุบสภา ก็จะขึ้นอยู่ที่ว่ายุบวันไหน ถ้ายังไม่ได้ยื่นร่างเข้าสภาฯ เท่ากับว่ากระบวนการยังไม่จบ เราจะล่าชื่อต่อไปเรื่อย ๆ และรอสภาฯ ชุดใหม่เข้ามาค่อยยื่นก็ได้ แต่ถ้ายื่นไปแล้ว และมีการยุบสภาเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญระบุว่า สภาฯ ชุดใหม่สามารถเสนอร่างที่คาไว้อยู่กลับมาพิจารณาใหม่ก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต เชื่อมั่นว่าเมื่อได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ร่างนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี