เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยกับพรรคเล็ก นายกรัฐมนตรี เตรียมยุบสภาปลายปี 65 ว่าประเด็นดังกล่าวต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประวิตร ไม่เคยพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยพร้อมตลอดและเตรียมเลือกตั้งมานานแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2562 ตอนนี้สนใจสร้างเสถียรภาพให้ประเทศ ไม่ใช่แค่เสถียรภาพรัฐบาล

ส่วนประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ นัดพรรคเล็กพูดคุยที่สโมสรราชพฤกษ์ วันที่ 17 มี.ค. เวลา 18.00 น. นั้น นายอนุทิน เปิดเผยว่า ทีมงานนายกฯได้ประสานมาที่ตน ให้ไปร่วมพบปะพูดคุยวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งเป็นการพูดคุยร่วมมือกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนคาดหวังการคุยในวันดังกล่าวหรือไม่นั้น นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่มีอะไร และไม่ใช่การสังสรรค์ แต่เป็นการหารือว่าจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เป็นปัญหาของบ้านเมืองได้รับการแก้ไขโดยเร็ว รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน และประชาชนไม่ควรกังวลหรือเสียอารมณ์กับพรรคร่วมรัฐบาลดีกันหรือไม่ อย่าไปกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสภา
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยืนยัน พรรคเศรษฐกิจไทยไม่เป็นปัญหากับรัฐบาล และผู้จัดการรัฐบาลก็บอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเศรษฐกิจไทยไม่เคยสร้างปัญหาให้กับรัฐบาล ส่วนในวันที่ 17 มี.ค. หากไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยไปร่วมด้วยจะไม่กระทบอะไรกับรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามเจ้าภาพ เพราะตนเป็นเจ้าภาพเดือน เม.ย. และเตรียมเชิญทุกพรรคการเมือง ซึ่งการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสิ่งที่น่ากระทำเดือนละครั้ง ถือว่าไม่เยอะจนเกินไป
เมื่อถามต่อว่า 30 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยรวมกับพรรคเล็กไม่เป็นสาเหตุให้ยุบสภาก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องยุบสภาต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ถามตนก็ตอบไม่ได้ และการนัดพบปะกันในวันที่ 17 มี.ค. จะไม่มีการเสี้ยมอะไรกันอยู่แล้ว การอยู่ตรงกลางดีอยู่แล้ว และปลอดภัยอยู่แล้ว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร ส่งสัญญาณพรรคเล็กว่าจะยุบสภาปลายปี แต่ทราบเพียงว่า รัฐบาลอยากอยู่แก้ไขสถานการณ์โควิดที่กระทบปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งจะมีการประชุมเอเปคช่วงปลายปี ดังนั้น รัฐบาลอยากทำงานให้เรียบร้อย แต่หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองช่วงปลายปี.