เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณยุบสภาหลังการประชุมเอเปค และจะมีการเลือกตั้งเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ว่าตนเพิ่งรู้ว่า พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ทั้งนี้ อำนาจยุบสภาเป็นของนายกฯ เราก็ฟัง พล.อ.ประวิตรแบบฟังหูไว้หู เพราะไม่รู้ว่าเชื่อถือได้แค่ไหน และไม่มั่นใจว่าความเป็นเอกภาพของรัฐบาลเป็นอย่างไร อีกทั้งการพูดเช่นนั้นเป็นการส่งสัญญาณมาจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือไม่ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ส่งสัญญาณมาก็เป็นไปได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณจากพรรคพลังประชารัฐว่า จะลอยแพ พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงนั้น พูดง่ายๆว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องรีบหาพรรคอยู่
นอกจากนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลบริหารไม่ได้แล้ว หลักคิดที่ว่าพ้นเอเปคก่อนค่อยว่ากัน คิดจากอะไร คิดจากเงินในกระเป๋าประชาชนหรือไม่ คิดจากการพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่ หรือคิดแค่เพียงว่าได้เป็นเกียรติเป็นศรี ครั้งหนึ่งได้มาทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ได้ทำอีเวนท์สำคัญระดับโลกก็พอแล้ว สมชายชาติทหาร สมชายชาตรี ได้มาทำหน้าที่ตรงนี้เป็นเกียรติประวัติ พอแล้ว นอนตายตาหลับ คำถามคือประชาชนได้อะไรจากตรงนั้น สิ่งที่ควรจะคิดคือคิดบนพื้นฐานเงินในกระเป๋าประชาชนและศักยภาพของประเทศ ถ้ารัฐบาลไปต่อไม่ได้ต้องยอมรับสภาพ อย่าไปติดกับดักเรื่องศักดิ์ศรีมาก ในประเทศทั่วโลกถ้าล้มเหลวจะต้องแสดงความรับผิดชอบ คือยุบสภาและลาออก เปิดทางให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ถ้าอยากทำหน้าที่รัฐบาลดูแลเรื่องเอเปคจริง ตนคิดว่ายุบสภาตอนนี้แล้วรีบเลือกตั้ง ถ้าประชาชนยังเลือกพวกท่านกลับมา ท่านก็ได้ทำเอเปคอยู่ดี ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องรอให้พ้นเอเปค
การพูดเช่นนี้เป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่า สงสัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะหามือไม่พอ ในช่วงนี้ถ้ารัฐบาลจะยุบสภาอาจจะมี 2 สถานการณ์ คือ 1.ยุบก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหามือไม่พอ และ 2.การอภิปรายไม่ไว้ใจมือจะพอ แต่มีเงื่อนไขว่า รัฐบาลสัญญาว่าจะยุบสภาหลังจากนั้น ซึ่งคิดว่าควรจะดูสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยเวลานี้ว่าเราแย่มาก และรัฐบาลไม่มีสมาธิเลยในการบริหารประเทศ จัดการปัญหาภายในต้องมานั่งคิดปวดหัวว่าจะจัดงานเลี้ยงวันที่เท่าไร จะยกเลิกดีหรือไม่ ประเทศยูเครนกำลังรบกับรัสเซีย น้ำมันขึ้น มีข่าวว่ายุโรปจะแบนเหล็กทำให้ราคากำลังจะแพงและจะส่งผลต่ออสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศหรือไม่ ประชาชนจะหาบ้านยากขึ้นหรือไม่ เงินในกระเป๋าเขาเหลือเท่าไรเราแทบไม่ได้มานั่งคิดเรื่องนี้แล้ว คิดแค่ว่าเราจะจัดงานเลี้ยงอะไร ภาพของรัฐบาลระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตร จะต้องออกมาดูดี ดูสมานสามัคคี ถ้าตนเป็นประชาชนผมรู้สึกหมดหวัง
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามถึงจะยุบสภาก่อนประชุมเอเปค พรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งความพร้อมของพรรคก้าวไกลคือการที่ประชาชนเชื่อมั่นเรา และหลายๆ ครั้งที่สถาบันต่างๆ มีการทำโพล เราอยู่ในกลุ่มพรรคการเมืองที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ พรรคก้าวไกลในวันนี้คือพรรคที่ประชาชนไว้วางใจ เชื่อว่าประชาชนจะเลือกเรา
ส่วนกรณีการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ของพรรคก้าวไกล นั้น วันที่ 14-16 มี.ค.นี้ พรรคก้าวไกลได้จัดสัมมนาและมีการเช็กความพร้อมเรื่องนี้ ส่วนเรื่องที่จะอภิปรายมีมากมายให้เลือก แต่ต้องคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนว่าเราจะเอาประมาณไหน ยืนยันว่าเราพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้ารัฐมนตรีคนไหนมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เราก็ไม่ไว้หน้า ไม่มีเกี๊ยะเซียะ ไม่มีการไว้ชีวิตใคร ถ้าเรื่องมีข้อกล่าวหาครบถ้วนเราก็พร้อมใช้กลไกของสภาในการประจานรัฐบาลให้ประชาชนได้ดู ส่วนจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้างหรือจะอภิปรายทั้งคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้ลงรายละเอียดขนาดนั้น รวมถึงจะยื่นญัตติเมื่อไหร่ก็เช่นกัน ต้องพูดคุยกับฝ่ายค้านก่อน เพราะยังมีหลากหลายความคิดอยู่ แต่เราตั้งใจใช้กลไกนี้ให้รวดเร็วสอดคล้องกับจังหวะการเมืองต่างๆ ด้วย