เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า กรณีที่คุณครูอายุ 39 ปี สถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ฉีดวัคซีนสลับชนิด แล้วเสียชีวิต 1 วันหลังการฉีดเข็มที่ 2 นั้น ผลการชันสูตรเบื้องต้น พบสาเหตุการเสียชีวิต คือ สมองบวมจากก้อนในสมอง ทำให้เลือดไปกดทับก้านสมอง ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ทั้งโรคประจำตัว และสถานะสุขภาพอื่นๆ มาประกอบการพิจารณาทั้งหมดว่า มีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ แล้วจะนำผลมารายงานให้ทราบต่อไป

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ส่วนการฉีดวัคซีน จากข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ค.2564 เวลา 18.00 น. ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสมทั้งสิ้น 15,388,939 โด๊ส จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 11,805,180 ราย เข็มที่ 2 3,583,759 ราย ถ้าแยกชนิดของวัคซีน แยกได้ดังนี้ ซิโนแวค 7,933,854 โด๊ส แอสตราเซเนกา 6,856,472 โด๊ส และซิโนฟาร์ม 598,613 โด๊ส ส่วนผลสรุปเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 (AEFI) ประจำวันที่ 18 ก.ค.2564  เวลา 16.30 น. จำนวนวัคซีนที่ฉีดสะสม 14,298,596 โด๊ส พบผู้ป่วยที่มีอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน เข้าเกณฑ์การรายงานของกรมควบคุมโรค ดังนี้ เข้าเกณฑ์ร้ายแรง 1,343 ราย คิดเป็น 9.4 ต่อการฉีดวัคซีนแสนโด๊ส เสียชีวิต 231 ราย คิดเป็น 1.6 ต่อการฉีดแสนโด๊ส และผู้ป่วยอื่นๆ เช่น มีไข้ 2,565 ราย คิดเป็น 17.9 ต่อการฉีดวัคซีนแสนโด๊ส รวมเป็น 4,139 ราย คิดเป็น 28.9 ต่อการฉีดวัคซีนแสนโด๊ส

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปสถานการณ์เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-18 ก.ค.2564 พบยอดสะสมผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ ร้ายแรง จำนวน 1,592 ราย พิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วเสร็จ 482 ราย อยู่ระหว่างติดตามข้อมูล 1,110 ราย ในจำนวน 482 ราย แบ่งเป็น เกี่ยวกับวัคซีน เช่น อาการแพ้ 71 ราย รักษาหายทุกราย เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน คือ มีปฏิกิริยาร่างกายแต่ตรวจไม่พบความผิดปกติ 240 ราย รักษาหาทุกราย เหตุการณ์ร่วมไม่เกี่ยวกับวัคซีน คือ เจ็บป่วยรักษาหาย 36 ราย เสียชีวิต 122 ราย ไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ 13 ราย  

ผอ.กองควบคุมโรคฯ กล่าวอีกว่า ส่วนร้อยละของอาการที่พบหลังการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน จำแนกตามชนิดของวัคซีนที่ได้รับ คือ ซิโนแวค จำนวน 1,633 ราย มีอาการและอาการแสดง ดังนี้ เวียนศีรษะ 21.92เปอร์เซ็นต์ ปวดศีรษะ 15.25เปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ 14.88 เปอร์เซ็นต์ อาเจียน 12.43 เปอร์เซ็นต์ อ่อนเพลีย 9.37เปอร์เซ็นต์ ปวดกล้ามเนื้อ 6.86 เปอร์เซ็นต์ ผื่น 6.74 เปอร์เซ็นต์ ถ่ายเหลว 6.00 เปอร์เซ็นต์ ไม่สบายตัว 4.41 เปอร์เซ็นต์ และไข้ 3.98 เปอร์เซ็นต์  

ผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 1,802 ราย มีอาการและอาการแสดง ดังนี้ ไข้ 24.75เปอร์เซ็นต์ เวียนศีรษะ 21.92 เปอร์เซ็นต์ ปวดศีรษะ 15.25 เปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ 14.88 เปอร์เซ็นต์ ปวดกล้ามเนื้อ 14.21 เปอร์เซ็นต์ อาเจียน 12.43 เปอร์เซ็นต์ อ่อนเพลีย 9.37เปอร์เซ็นต์ ถ่ายเหลว 9.05 เปอร์เซ็นต์ ไม่สบายตัว 8.32 เปอร์เซ็นต์ และเป็นลม 3.06 เปอร์เซ็นต์ กรณีผู้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 34 ราย อาการและอาการแสดง ดังนี้ เวียนศีรษะ 32.35 เปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ 29.41 เปอร์เซ็นต์ อาเจียน 26.47 เปอร์เซ็นต์ ปวดศีรษะ 17.65 เปอร์เซ็นต์ คัน 8.82 เปอร์เซ็นต์ อ่อนเพลีย 8.82 เปอร์เซ็นต์ ไข้ 8.82 เปอร์เซ็นต์ ผื่น 5.88 เปอร์เซ็นต์ เป็นลม 5.88 เปอร์เซ็นต์ และผื่นแพ้ 5.88 เปอร์เซ็นต์