เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มี.ค. นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ร้องเรียนต่อคณะกมธ.กรณีเจ้าหน้าที่รัฐออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นส.ล.) แปลงโคกตาดเลขที่ พช.159 ผิดพลาดคลาดเคลื่อน โดยนำรังวัดออกนอกอาณาเขตที่สาธารณประโยชน์โคดตาด 1 หมื่นไร่เดิม และผิดไปจากทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าโคกตาด ตามที่มหาดไทยประกาศเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2469 ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบถูกตัดสินดำเนินคดี 26 ราย ว่าในปี 2558 ได้มีกระบวนเริ่มดำเนินคดีประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวหลายราย ประชาชนบางส่วนต่อสู้คดีจนรวบรวมพยานหลักฐาน ที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของกระบวนการรังวัดที่ดิน การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงที่ พช.159 และการเปลี่ยนเลขรหัสระวางรูปแผนที่ทางอากาศ ส่งผลให้ที่ดินสาธารณะที่ประกาศหวงห้ามไว้ในปี 2469 เคลื่อนตำแหน่งมาทับที่ของประชาชน ที่ไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินสาธารณะตั้งแต่ต้นจนถูกดำเนินคดี
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ กรมที่ดินจะทำการรังวัดพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง โดยวันนี้ทาง กมธ.ป.ป.ช.ได้กำชับกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ซึ่งได้เข้าชี้แจงต่อคณะ กมธ.แทนร มว.มหาดไทย ว่าต้องกำชับให้กรมที่ดินทำการรังวัดอย่างตรงไปตรงมา สามารถอธิบายสังคมได้โดยต้องยึดแนวเขตพื้นที่สาธารณะ ที่ปรากฎตามทะเบียนที่ดินสาธารณะโคกตาด ลำดับที่ 28 ที่ได้กำหนดตำแหน่ง และพิกัด ทั้ง 4 ทิศไว้ชัดเจน คือ ทิศเหนือจดหลักเขต ทิศใต้จดโคกหนองหอย ทิศตะวันออกจดโคกน้อย ทิศตะวันตกจดโคกคอกแคบ และได้กำหนดขนาดที่ดินไว้ชัดเจน ว่ามีขนาดกว้าง 100 เส้น ยาว 100 เส้น รวมเนื้อที่ 1 หมื่นไร่ ทั้งนี้ กมธ.ป.ป.ช.จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น หากพบการกระทำผิดต่อหน้าที่ กมธ.ป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาต่อไป