จากกรณี ยายนิจ หรือ นางเสาวนิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี อ้างว่าถูกลูกชายแท้ๆ ยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาและแพ่ง ข้อหา ยักยอกทรัพย์ แจ้งความเท็จ แต่คดีอาญาศาลยกฟ้อง เนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดานไม่สามารถฟ้องบุพการีได้ แต่ลูกชายยังไม่ยอมเลิกละ ฟ้องแม่และพี่สาวในคดีแพ่งซึ่งต้องขึ้นศาลแขวงนนทบุรี ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ทำให้ยายนิจถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าลูกจะตอบแทนบุญแบบนี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ยิ่งกว่าละคร! ลูกฟ้องแม่วัย83ป่วยมะเร็ง ยักยอกทรัพย์-แจ้งความเท็จ

ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค. นายจ๊อด อายุ 61 ปี ลูกชายของยายนิจ เปิดเผยว่า เรื่องที่ตนฟ้องแม่และพี่สาวคนโตนั้น จริงๆ แล้วตนก็ไม่อยากฟ้อง แต่ว่าแม่เป็นคนที่ร่วมกับพี่สาวไปทำการคัดสำเนาโฉนดที่ดินของพ่อและแอบไปทำการแบ่งให้กับพี่สาวและน้องสาว ล่าสุดแม่กับพี่สาวคนโตก็ยังไปคัดสำเนาโฉนดของน้องสาวที่เพิ่งเสียชีวิตไปอีก เพื่อจะนำที่ดินไปขาย ทั้งๆ ที่น้องสาวที่เสียชีวิตได้มอบอำนาจไว้ให้ตนเป็นผู้ดำเนินการ ทุกวันนี้โฉนดของพ่อและของน้องสาวที่ตนเก็บไว้ ก็ไม่ต่างอะไรกับโฉนดกล้วยแขกของพระพยอม ทั้งๆ ที่เป็นโฉนดจริง แต่ถูกแม่และพี่สาวมาคัดสำเนาจากกรมที่ดินแล้วเอาไปขายแบบนี้ จะให้ตนรู้สึกอย่างไร

“ตนเป็นลูกชายกลับไม่เคยได้สมบัติแม้แต่สักบาทเดียว ขณะที่พี่สาวคนโตและหลานสาว เป็นฝ่ายได้สมบัติแม่ไปตลอด ตัวเองก็อยากไปกราบเท้าขอโทษแม่ แต่แม่ก็คงไม่รับตนเป็นลูก ตนมาฟ้องแม่ ถึงแม้ตนจะเป็นฝ่ายถูกสังคมก็ต้องด่าว่าตนเป็นฝ่ายผิด ส่วนเรื่องที่ตนรับราชการกรมอู่แล้วไม่ได้เซ็นเบิกให้ตอนรักษามะเร็ง ตอนนั้นตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ว่าการเบิกรักษาแม่จะต้องสำรองเงินไปก่อนถึงจะทำเรื่องเบิกได้ แต่ยังไม่ทันไร พี่สาวก็พาแม่ไปหาหัวหน้าของตนที่กรมอู่ จากนั้นก็จะขอเร่งรัดให้รีบทำเรื่องเบิกเงิน ซึ่งมันผ่านขั้นตอน ทำไม่ได้ จนตนถูกหัวหน้าตั้งกรรมการสอบ และต่อมาหัวหน้าตรวจสอบก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคาดเคลื่อน ไม่ใช่เรื่องจริง ตนจึงพ้นข้อครหาในความผิดจากต้นสังกัดในครั้งนั้น เรื่องนี้ตนอยากให้สังคมเห็นใจและเข้าใจตนด้วย คนเป็นลูกทะเลาะกับแม่ยังไงก็ผิด ทั้งๆ ที่ตนเป็นฝ่ายถูก และถูกกระทำมาโดยตลอด ส่วนเรื่องฟ้องร้องยังว่าไปตามกฎหมาย” นายจ๊อด กล่าว