เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา อนุกรรมการสร้างเสริทภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีการทบทวนและมีคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนในประเทศไทย มีมติเห็นชอบและให้คำแนะนำเพิ่มเติม และปรับแผนการฉีดวัคซีนดังนี้ กลุ่มอายุ 18 ปี ขึ้นไป 1.การฉีดเข็ม 3 ห่างจากเข็ม 2 ระยะเวลา 3 เดือน ทุกสูตร 2. การฉีดเข็ม 4 ห่างจากเข็ม 3 ระยะเวลา 4 เดือนขึ้นไป ทุกสูตร ส่วนกรณีทางเลือกฉีดวัคซีนครึ่งโด๊ส โดยเฉพาะ mRNA วัคซีนไฟเซอร์นั้น สามารถดำเนินการภายใต้ดุลพินิจของแพทย์ และความสมัครใจของผู้ฉีด

กรณีการฉีดวัคซีนเข็มประตุ้นในเด็กอ่ายุ 12-17 ปี มีจำนวนหนึ่งฉีดครบ 2 เข็มไประยะหนึ่งแล้ว อนุกรรมการฯ แนะนำเพิ่มเติมว่าสามารถฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นเต็มโด๊ส โดยห่างจากเข็ม 2 นาน 4-6 เดือนขึ้นไป สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และราชวิทยากุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ส่วนกรณีการฉีดวัคซีนสำหรับคนมีประวัติติดเชื้อมาก่อน ให้สามารถรับวัคซีนหลังติดเชื้อ 3 เดือน ทั้งนี้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขแล้ว

ทั้งนี้จากการเปรียบเทียบเทศกาลสงกรานต์ปี 64 พบติดเชื้อหลังสงกรานต์ มีการติดเชื้อมากขึ้น แต่ช่วงนั้นจำนวนเข้ามาของวัคซีนยังน้อย เลยมีผู้เสียชีวิตสูง ส่วนปี 2565 เราไม่ประมาทจึงต้องเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ส่วนลูกหลานจะเดินทางกลับบ้านก็ต้องฉีดวัคซีนตามเกณฑ์และคลีนตัวเองก่อนเดินทาง 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง เพื่อสร้างความปลอดภัย ทั้งนี้ตั้งเป้าในพื้นที่ควรดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มประตุ้นในผู้สูงอายุอย่างร้อย 70% ก่อนสงกรานต์ ซึ่งเตรียมวัคซีนไว้ 3 ล้านโด๊ส โดยจัดบริการฉีดเชิงรับ และรุก ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการค้นหา.