เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างนายสกลธี ภัททิยกุล กับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะให้โอกาสสนับสนุนใครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดย พล.อ.ประวิตรย้อนถามกลับว่า “คุณจะเอาใคร ผมก็เอาคนนั้น”

เมื่อถามย้ำพรรค พปชร.สนับสนุนใครลงสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เป็นเรื่องของผม ไม่มีใครเขาอยากรู้ มีแต่พวกคุณอยากรู้ เป็นเรื่องของผม ซึ่ง ส.ก.พรรคส่งอยู่แล้ว”

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า การประชุมใหญ่พรรค พปชร. ในวันที่ 3 เม.ย. จะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในส่วนที่ขาดไปเท่านั้น และไม่ทราบจะมอบหมายใครให้ดูแลพื้นที่ กทม. ส่วนในการประชุมดังกล่าวจะมีเซอร์ไพร้ส์หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “เซอร์ไพร้ส์อะไร เซอร์ไพร้ส์ผมหรอ”

เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไปร่วมการประชุมพรรคด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า ไปร่วมได้หรือ ไปร่วมในพรรคไม่ได้ คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคไปไม่ได้ผิดกฎหมาย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีบ่นว่าผลงานรัฐบาลไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลทำงานไปเยอะต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประชาสัมพันธ์โดยการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน สิ่งสำคัญคือต้องให้สื่อมวลชนได้รับรู้และช่วยเผยแพร่ เมื่อถามว่าในส่วนของรองนายกฯ ต้องมีการปรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “ในส่วนของผมทำดีแล้วหรือยัง ไม่ดีหรือ ถ้าไม่ดีก็มาไล่ผมออก”

เมื่อถามอีกว่า นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบอย่างมีอารมณ์ ว่า “ยัง” ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์ทันที

วันเดียวกันที่ ลานกิจกรรมชุมชนบุญเหลือ 2 เขตบางซื่อ นายอภิชัย เตชะอุบล ผอ.การเลือกตั้ง ส.ก.กทม. พรรค พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในนามพรรค พปชร. 3 คน ประกอบด้วย นายเอกเมธ กมลวรานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางซื่อ, นายธนพัฒน์ ธนกิจอารักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต, นายต่อศักดิ์ ใหลสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตคลองเตย

นายอภิชัย ระบุว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.3 เขตที่เปิดตัววันนี้ ล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความตั้งใจเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องชาว กทม. พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ที่สำคัญ เขตบางซื่อ เขตดุสิต และเขตคลองเตย เป็นเขตที่มี ส.ส.พรรค พปชร.ดูแลพื้นที่อยู่ จึงต้องการปักธง เพื่อให้การทำงานทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศต่อเนื่อง มีความเป็นเอกภาพ ทำหน้าที่ผู้แทนฝั่งประชาชนได้อย่างไม่สะดุด เชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จะครอบคลุมมากขึ้น ตรงจุด ตรงประเด็น และรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะมีทีมทำงานระดับท้องถิ่นเพิ่มขึ้น.