สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ว่ากระทรวงการคลังของสหรัฐประกาศการคว่ำบาตรชายชาวเมียนมา 3 คน ฐานเป็นนายหน้าค้าอาวุธให้กับกองทัพเมียนมา และบริษัทค้าอาวุธอีกสองแห่ง ซึ่งเป็นของนายเต ซา หนึ่งในนักธุรกิจชื่อดังชาวเมียนมา ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำมานานแล้ว โดยนายเต ซา เป็นหนึ่งในบุคคลใกล้ชิดกับ พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังของสหรัฐยังขึ้นบัญชีดำ กองพลทหารราบเบาที่ 66 ของกองทัพเมียนมาด้วย โดยกล่าวหาว่า เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสังหารหมู่ประชาชน ตามหมู่บ้านหลายแห่งของเมียนมา รวมถึงการสังหารหมู่ประชาชนอย่างน้อย 35 ราย ที่เมืองโมโซ ในเขตชานเมืองพรูโซ ของรัฐกะยา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมา เมื่อปลายเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว


ทั้งนี้ นับตั้งแต่ผ่านพ้นการรัฐประหารในเมียนมา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 รัฐบาลวอชิงตันขึ้นบัญชีดำชาวเมียนมาไปแล้วอย่างน้อย 70 คน และบริษัทอีกอย่างน้อย 27 แห่ง ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า รัฐบาลวอชิงตันจะเดินหน้ากดดันรัฐบาลทหารเมียนมาด้วยวิธีการลักษณะนี้ต่อไป


ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาปฏิเสธ การที่สหรัฐ “ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ” ว่าปฏิบัติการของกองทัพเมียนมา ในรัฐยะไข่ เมื่อกลางปี 2560 ถือเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” หรือ “มาตรการกวาดล้างทางชาติพันธุ์” และ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” กับชาวโรฮีนจา “เป็นการกล่าวหาที่ห่างไกลจากความเป็นจริงมาก” เนื่องจากกองทัพเมียนมา “ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “ไม่มีเจตนาในเชิงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อทำลายกลุ่มบุคคลใด”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES