นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (28 มี.ค.) ที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดการเงินกลับมาผันผวนสูงขึ้น จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ในสัปดาห์นี้ มองว่า ควรติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน พร้อมทั้ง จับตามุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการเงินเฟด ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์กรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ และมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.40-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
นอกจากนี้ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาจขยายตัวในอัตราชะลอลง สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมีนาคมที่จะลดลงสู่ระดับ 52 จุด สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (Business Sentiment) ที่อาจลดลงสู่ระดับ 47 จุด
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความไม่แน่นอนสูงขึ้นจากผลกระทบของสงคราม ทำให้มองว่าในวันที่ 30 มี.ค. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% เพื่อประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางทิศทางเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทมีแนวโน้มที่จะผันผวนในกรอบกว้าง โดยประเมินว่า มติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจเป็นปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ นอกจากนี้ ยังคงต้องระวังความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามที่อาจยังคงกดดันให้ตลาดไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินในฝั่ง EM Asia เผชิญแรงกดดันต่อ
ขณะเดียวกัน ควรติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์ หรือเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งล่าสุด เริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทย 5,000 ล้านบาท ส่วนแรงขายบอนด์ระยะสั้นก็เริ่มลดลง โดยเงินบาทอาจเผชิญแนวต้านในโซน 33.75 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าบรรดาผู้ส่งออกก็ต่างรอขายเงินดอลลาร์ในช่วงดังกล่าว