เมื่อวันที่ 29 มี.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,615 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 65 จำนวน 2,525 รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
โดยมีรายละเอียดดังนี้คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 112 รายการ งบประมาณ 1,413 ล้านบาท กรมชลประทาน 621 โครงการ งบประมาณ 1,162 ล้านบาท กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 670 โครงการ งบประมาณ 1,064 ล้านบาท กรมทรัพยากรน้ำ 111 โครงการ งบประมาณ 972 ล้านบาท องค์การบริหารส่วนจังหวัด 497 โครงการ งบประมาณ 567 ล้านบาท จังหวัด 492 โครงการ งบประมาณ 355 ล้านบาท กรมเจ้าท่า 11 โครงการ งบประมาณ 49 ล้านบาท เทศบาลเมือง 9 โครงการ งบประมาณ 27 ล้านบาท และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2 โครงการ งบประมาณ 2.7 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ระบุว่า พบว่ามีพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำด้านอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่ให้บริการการประปาส่วนภูมิภาค 24 จังหวัด นอกเขตพื้นที่ให้บริการการประปาส่วนภูมิภาค(ประปาท้องถิ่น) 50 จังหวัด และพื้นที่เกษตรกรรม นอกเขตชลประทานที่เพาะปลูกนารอบที่ 2 (นาปรัง) 11 จังหวัด พื้นที่ปลูกพืชต่อเนื่อง (ไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ) 4 จังหวัด รวมทั้งพื้นที่ด้านคุณภาพน้ำ ที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำของน้ำเค็มที่อาจส่งผลกระทบต่อน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 5 จังหวัด จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 64/65 จำนวน 9 มาตรการ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 65 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมแผนงานโครงการเร่งด่วนที่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ตามผลการประเมินพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงภาวะน้ำแล้ง ปี 64/65 ของ กอนช.