หากเอ่ยถึงวงการตัวท็อปซูเปอร์โมเดลของประเทศไทย ต้องมีชื่อ ซินดี้ สิรินยา ติดโผอย่างแน่นอน นอกจากเจ้าตัวจะเป็นนางแบบมืออาชีพแล้ว ตอนนี้ยังเป็นแกนนำของผู้หญิงแถวหน้าให้ลุกขึ้นสู้ในเรื่องของสิทธิสตรีต่อตนเอง งานนี้เจ้าตัวขอเป็นกระบอกเสียงผ่านรายการ Z Story Z Holiday ถึงปัญหาดังกล่าว และโครงการที่เจ้าตัวได้จัดตั้งขึ้นด้วย

ซินดี้ เผยว่า “ถ้าหากว่านับงานโฆษณาครั้งแรก เราอยู่วงการมา 30 ปีเลย ก็อยากพูดให้เป็นแง่คิดสำหรับน้องๆ หลังจากเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ตอนอายุ 17 ปี มีคนมาชมเราตลอดว่า เราสวยที่สุด ทำให้เราเชื่อ คิดว่าเราเพอร์เฟกต์ที่สุด ทำตัวไม่น่ารัก เหวี่ยง วีนตลอด จนวันหนึ่งมีพี่ที่น่ารักในวงการ โทรฯ มาเตือนเรา จริงๆ ต้องขอบคุณเขามากๆ ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่สุดในชีวิตเราที่สุด จนมันปรับทัศนคติของเรา นิสัยเราได้เลย และทำให้เราคิดว่าเราไม่ใช่ที่สุดจริงๆ วันหนึ่งก็จะมีคนอื่นมาแทนที่เ เป็นซูเปอร์โมเดล มีท่าประจำ เรามีท่าอะไร จริงๆ ก็ไม่นึกว่าเป็นท่าของเรา แต่หลายคนทักมาต้องเป็นท่าของเราเท่านั้นคือ ท่าปวดท้อง จริงๆ อะไรที่เป็นอาการเจ็บป่วย ปวดอะไรของคนเรา เราเอามาทำท่าโพสได้หมด เช่นท่าปวดท้อง ปวดเอว ปวดหัว ที่เลือกท่านี้เป็นท่าประจำคือ เราเป็นคนชอบความท้าทาย ไม่ห่วงสวย หลายคนที่เป็นพี่ในวงการและต้องการคนที่ทำท่ายาก เขาก็จะให้งานเราตลอด จริงๆ มันเป็นท่าตามสรีระ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นท่านั้น ท่านี้ และจริงๆ เราเป็นคนชอบศึกษาด้านสรีระด้วย เราต้องลองยืนหน้ากระจก ลองทำท่านั้น ท่านี้ต่างๆ”

“แรงกดดันของเราคือการดูแลตัวเองมากๆ มีวินัยในการทำงาน ทำอย่างไรให้ตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่น และที่ดีไซเนอร์ต้องการ ต้องทำการบ้านมาดี และรู้ว่าโจทย์ของเราคืออะไร ให้มา 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็ต้องทำให้ได้ 200 เปอร์เซ็นต์ อย่าคิดว่าเราแค่มาแต่งตัวสวยๆ แต่เรามาทำงาน เราเคยถูกลวนลาม​เอาจริงๆ วันนั้นเป็นวันสงกรานต์ ช่วงเที่ยงเราก็ไปเที่ยวกับเพื่อน อยู่ๆ ก็มีคนมาล้อมเรา ตั้งใจมาล็อกตัวเราข้างใน และก็เริ่มจับนั่นนี่ แบบเขาตั้งใจ ประมาณ 5 คน ตอนนั้นเราช็อก ทำได้อย่างเดียวคือพยายามหนี และก็วิ่งออกไป กลับบ้านเลย เราไม่เคยพูดกับใครเลย จริงๆ ผู้หญิงหลายคนที่เคยเจอแบบนี้ คงช็อก และไม่เคยบอกใคร หรือถ้าบอกใคร จะมีใครทำอะไรได้ไหม นี้คือสาเหตุที่ทำให้มีภัยคุกคามทางเพศเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้คิดถึงมันเลย จนเข้าปี 2018 ผ่านไป 4 ปี เราอ่านหนังสือ เห็นข่าว งดแต่งตัวโป๊ ป้องกันเหตุการณ์คุกคามทางเพศ ห้ามใส่สายเดี่ยวไปเล่นน้ำ จริงๆ เราเข้าใจเขานะ แต่เขาไม่ได้พูดถึงผู้ที่จะกระทำเหล่านี้ ไม่มีการเตือน หรือแจ้งว่าหากคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ ให้แจ้งใคร ทำอะไรอย่างไงต่อ แต่คุณกลับมาบอกว่าห้ามใส่สายเดี่ยว และเหตุการณ์มันจะดีขึ้น เราก็เลยแบบ ให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเรา ในวันนั้นที่เราลืมไป เราก็แบบเดี๋ยวก่อนนะ วันนั้นฉันยังไม่ได้แต่งตัวโป๊เลย แต่ฉันก็โดน ก็เลยของขึ้น โพสต์เลย และติดแฮชแท็ก #DontTellMeHowToDress พอมันเป็นไวรัล ก็แบบมีคนคิดเหมือนเราเยอะมาก ตอนนั้นมีมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เลยชวนเราไปร่วมรณรงค์ด้วย เราก็เริ่มทำการบ้านต่างๆจนเกิดโครงการนิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ และเราก็นำเอาเสื้อผ้าผู้ถูกกระทำต่างๆ มาโชว์ เช่น เสื้อนักเรียน เสื้อนักศึกษา กางเกงยีน ต่างๆ เพื่อที่เป็นการตั้งคำถามต่อสังคมว่าชุดเหล่านี้เป็นแรงจูงใจจริงๆ หรือเปล่า หยุดเอาความผิดของการกระทำความรุนแรงมาลงกับผู้หญิงได้แล้ว”

“ชุดที่สะเทือนใจที่สุดคงเป็นชุดของเด็กอายุ 2 ขวบ ชุดสีชมพู และกางเกงขาสั้นตัวเล็ก โดนข่มขืนจากลุงข้างบ้าน จริงๆ ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ 91 เปอร์เซ็นต์มาจากเคสที่เป็นคนรู้จัก และคนรอบตัว เราควรมีการอธิบายสอนลูก สอนเด็ก ให้ระวังตัวเอง อย่างเช่นพฤติกรรม จับอวัยวะเล่นต่างๆ และเห็นเป็นเรื่องสนุก เราควรหยุดคิดแบบนี้ เราควรสอนเขา ไม่ให้มาจับของเรา และเราห้ามไปจับของเขา เราต้องยอมรับเราอยู่ในสังคมผู้ชายเป็นใหญ่อยู่ โปรเจคท์ปีนี้ที่คิดไว้ จริงๆ เราเป็นคนชอบวาดรูปมาก ปีนี้ตั้งใจจะใช้ศิลปะในการสื่อแคมเปญ และรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปให้มูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้หญิง ฝากติดตามผ่านไอจีซินดี้ได้เลย น่าจะปลายๆ เดือนนี้”​