เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวถึงกรณีการขอแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยของ “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ที่มารับงานตั้งแต่ปี 2002  ภายหลังน.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย จากเทควันโด รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมรับพิจารณาเอกสารทันทีที่เอกสารครบถ้วน พร้อมจะเร่งการพิจารณาโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นการทำคุณความดีให้กับประเทศไทย เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ “โค้ชเซียะ” เซียะ จื่อหัว ผู้ฝึกสอนแบดมินตันชาวจีนของน.ส.รัชนก อินทนนท์ หรือน้องเมย์ ก็เคยสละสัญชาติจีน และเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทยตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 60

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สัญชาติ พ.ศ. 2508 กำหนดว่า เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติ มีความประพฤติดี ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พฤติการณ์การเมือง ยาเสพติด ความมั่นคงของชาติ มีอาชีพเป็นหลัก มีใบอนุญาตทำงาน มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นบาทต่อเดือน เสียภาษีไม่น้อยกว่า 3 ปี ในรอบปีก่อนยื่นคำขอ มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอ 5 ปี และมีความรู้ภาษาไทย โดยพูดภาษาไทยและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจรมว.มหาดไทย ถอนสัญชาติไทยแก่ผู้ซึ่งได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ เมื่อปรากฎว่า มีหลักฐานแสดงว่าผู้แปลงสัญชาตินั้นยังใช้สัญชาติเดิม.