เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่ SITTA LAW FIRM อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวาเขตสาทร กรุงเทพมหานคร จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์คลิปเสียงผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่า เป็นการสนทนาของแรมโบ้อีสาน หรือนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กับ นักการเมืองพรรคเดียวกัน ทราบภายหลังคือ นางจุรีพร สินธุไพร สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
นายษิทรา เปิดเผยว่า ตนได้คลิปเสียงดังกล่าวมาจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนดังกล่าวก็ได้มาจากกรุ๊ปไลน์ตำรวจอีกที เดิมทีแรกตนไม่ทราบว่าเป็นคลิปเลียนเสียงหรือคลิปจริง จึงได้สอบถามไปทางนายแรมโบ้ ซึ่งนายแรมโบ้ก็ได้ยอมรับว่าเป็นเสียงของเขาจริงๆ แต่คลิปที่ตนโพสต์ นายแรมโบ้ก็ชี้แจงกับตนว่า คลิปเสียงดังกล่าวมันไม่ครบสมบูรณ์เพราะยังมีท่อนหลัง แต่ตนก็ยืนยันว่าได้รับจากเพื่อนมาเพียงเท่านี้ ซึ่งคลิปก็ได้มีการทำข้อความมาแล้วเรียบร้อย ตนก็ได้ให้แรมโบ้ดู คงไม่มีการตัดต่อเพื่อกลั่นแกล้ง
นายษิทรา กล่าวว่า ส่วนวัตถุประสงค์ที่เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวไป ก็เพียงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงิน 15 ล้าน ที่นำไปใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายของ ป.ป.ช.หรือไม่ อีกทั้ง ในคลิปเสียงยังมีพาดพิงไปถึงการจับกุมบริษัทที่ซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ หลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึง การจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล
ส่วนประเด็นเงินจำนวน 15 ล้านบาท ที่มีการพาดพิงว่า มีการขอยืมเงินไปใช้ในการเลือกตั้งนายษิทรา กล่าวว่า เป็นของคนชื่อ น็อต ผู้บริหารกองสลากพลัส เพราะก่อนหน้านี้นายแรมโบ้รู้จักกับคุณน็อตมาก่อน และคุณน็อตก็ทราบล่วงหน้าแล้วว่าเจ้าหน้าที่จะมีการเข้าตรวจค้น
นอกจากนี้ นายษิทรา ยังยืนยันว่าในวงการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล มีโควตาการจัดสรรที่ไม่เป็นธรรม มีเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ดูแลโควตาหวย และการที่ออกมาเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ ตนก็ไม่ได้กังวลว่าจะถูกฟ้อง เพราะขอทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ค้าสลากฯรายย่อย และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
นายษิทรา ยังกล่าวว่า มุมมองต่อการจับกุมสลากฯที่ผ่านมาว่า ตนมองว่ามีกลิ่นไม่ดีตั้งแต่การจับกุมครั้งแรก ซึ่งตนได้มีการคุยกับตำรวจ จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ตนไม่ขอระบุรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว ใครที่จะมาทำตรงนี้ก็ควรมีความใสสะอาด ไม่แอบแฝงผลประโยชน์ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่ามีการเล่นแร่แปรธาตุกัน
ส่วนเรื่องการโพสต์คลิปเสียงเผยแพร่ลงทางเพจนั้น นายษิทรา ยืนยันว่า ก่อนที่ตนจะทำการโพสต์อะไร ตนได้ตรวจสอบ และตรวจเช็กเสียงในคลิปแล้ว เเละเมื่อมั่นใจว่าเป็นเสียงของนายแรมโบ้ ตนจึงโพสต์ลงเพื่ออยากให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฏว่าได้มีคนโทรศัพท์มาขอให้ตนลบโพสต์นี้ออก แต่ตนก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่สามารถลบคลิปดังกล่าวให้ได้ ทั้งนี้ ตนคาดว่าคู่สนทนาจะเป็นผู้บันทึกเสียง เพราะถ้าจะอ้างว่าเปิดลำโพงแล้วมีการบันทึกเสียง ก็ไม่น่าใช่ ดังนั้นตนจึงไม่ขอวิเคราะห์ว่าเป็นการหยอกล้อหรือพูดจริงจัง และไม่อยากวิจารณ์ว่าเป็นการพูดแก้เกี้ยว แต่ต้องมีการตรวจสอบ ขณะนี้เท่าที่ทราบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งคู่ ก็ต้องทำการตรวจสอบ
ทั้งนี้ ทนายษิทราได้ทิ้งท้ายว่า หากหน่วยงานใดจะนำคลิปไปตรวจสอบต่อ ก็สามารถนำไปขยายผลต่อได้ เพราะตนคงจะไม่ไปร้องหน่วยงานไหนต่ออีก
