ถูกจับตามองอย่างมากมายทีเดียว สำหรับรายการ “เป็นเรื่องใหญ่” ที่ล่าสุดได้เชิญ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความมาร่วมวิเคราะห์กรณีที่ตำรวจออกหมายจับเพิ่มอีกหลายคน รวมทั้งกรณีที่ กระติก ผู้จัดการ แตงโม นิดา รับสารภาพให้การเท็จ งานนี้ทำเอาหลายคนและสังคมสนใจคดีนี้กันอีกครั้งทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการโฟนอินหา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และ ทนายตั้ม ษิทรา ตามด้วย ทนายรณณรงค์ เพื่อพูดคุยความคืบหน้าอีกด้วย

ทนายรัชพล เผยว่า “เรื่องตำรวจออกหมายจับแซน ปอ และกระติกที่เพิ่งจับคือเขาอาจเพิ่งสืบสวนสอบสวนเจอประเด็นแล้วก็ออกหมายมานะครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่หมายจับ เพราะหมายจับโทษมันจะต้องคุกอย่างสูงมากกว่า 3 ปีขึ้นไป หรือไม่ก็ไม่มาตามหมายเรียกถึงจะออกหมายจับ แจ้งความเท็จไม่น่าจะเป็นหมายจับได้ ผมก็สงสัยอยู่ครับว่าอยู่ตั้งนานทำไมไม่แจ้งข้อหา แล้วมารวบตึงในช่วงที่จะปิดคดี ผมยังงงอยู่ว่าตกลงใครประมาทกันแน่ คนขับเรือ เจ้าของเรือ แล้วก็คุณแซน มันจะประมาทร่วมกันเลยหรือยังไงมันก็ยังมีข้อสงสัยอยู่เยอะเลย ผมว่าตำรวจยังไม่น่าปิดคดีเลยด้วยซ้ำ เพราะประมาทมันยังคาใจทุกคนนะผมว่า ส่วนกระติกสารภาพ ผมว่ากระติกเสี่ยงนะ เพราะตามข่าวคุณกระติกไปไลฟ์สดแล้วขัดแย้งกับการให้การตำรวจ คุณให้การเท็จ ถ้าเป็นแบบนี้อาจเป็นเรื่องการจำนนต่อหลักฐาน ก็มีสิทธิที่จะไม่รอลงอาญาอยู่ ต้องดูว่าสารภาพแค่ไหน ต่อยอดได้หรือเปล่า”

ทนายเดชา เผยว่า “ตอนนี้ตัวตัวละครใหม่ๆ เยอะไปหมดเลย แต่ที่บอกทนายตั้ม ษิทรา เป็นกุนซือมันน่าจะเป็นสำนักข่าวอื่นนะ ผมเองไม่เคยรู้ว่าทนายตั้มไปเป็นกุนซือ เอาจริงๆ ตอนนี้คดีมันใกล้จะจบแล้วครับ ไม่น่าเกินอาทิตย์หน้า เขาก็แจ้งไปตามพยานหลักฐาน เอาพระเอกไปก่อน พระเอกก็คุณปอ รองลงมาก็คุณเบิร์ต ค่อยๆ ไปครับ คุณกระติก กับคุณจ๊อบเป็นหมายเรียกครับ คุณแซนเป็นหมายจับ มาตรา 291ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คุณแซนเป็นคดีอาญาโทษร้ายแรงครับ สามารถออกหมายจับได้เลย เรื่องหมายจับเพิ่ม เหลือกุนซืออีกปากเดียวอีก 1 คนครับ นอกจาก 5 คนบนเรือครับ อาจเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ กุนซือคนนี้ก็มีความรู้ทางกฎหมาย มีอำนาจในการกำกับการแสดง แล้วก็สามารถที่จะเรียกทุกคนบนเรือมานั่งฟัง แล้วสอนเรื่องการทำลายหลักฐาน เป็นคนที่มีประสบการณ์ครับ ตำรวจเขารายงานแล้วว่าเป็นคนมีความรู้ทางกฎหมาย บอกใบ้ไม่ได้หรอกครับ ขนาดรองผู้บัญชาการยังไม่กล้าพูดเลย ถ้าผมพูดผมก็เดือดร้อน คือที่ไม่พูดเพราะมันยังไม่ถึงเวลาครับ ขนาดรองผู้บัญชาการยังไม่กล้าพูดเลย”

“ถามว่าคดีจะจบยังไง ตรงนี้ตอบเลยว่า จะติดคุกหรือรอลงอาญาต้องให้ศาลตัดสินครับ หรือไม่ก็ยกฟ้อง มี 3 อย่างครับ ผมก็จะดูคดีนี้จนจบ ถ้าไม่โดนคุณแม่ปลดซะก่อนนะ ด้านแม่คุณแม่พอใจเพราะคุณแม่ฟังตำรวจแล้วว่าเขาจะออกหมายจับอะไรยังไง แล้วก็พยานหลักฐานมีแค่ไหนก็แจ้งได้แค่นั้น แต่เรื่องปัสสาวะท้ายเรืออันนี้ไม่ขอตอบเอาเป็นว่าตกท้ายเรือแล้วกัน ส่วนจะฉี่หรือไม่ฉี่ ไม่ใช่ประเด็นในการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนะครับ ความตายเป็นเหตุจากความประมาทของผู้ต้องหา 3 คนนี้นะครับ ผมไม่ได้เชื่อตำรวจนะ เราเป็นทนายมีหน้าที่ติดตามคดี ไม่ได้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน อันไหนเราสงสัยก็ถามหรือเรามีพยานอะไรต่างๆ เราก็ไปเสริมกับตำรวจ ส่วนตอนนี้เรื่องทัวร์ก็เบาลงเรียบร้อยแล้วครับ เพราะผมได้สาปแช่งไปแล้ว เมื่อคืนขอให้แตงโมมาหักคอ ก็หนีไปหมดแล้วครับ”

ด้าน ทนายตั้ม เผยว่า “เรื่องเป็นกุนซือผมออกมาปฏิเสธแล้วครับ ว่าผมไม่ได้เป็นแน่นอน แล้วทางรองผู้บัญชาการภาค 1 เขาก็ออกมายืนยันกับสื่อแล้วว่าผมไม่ใช่กุนซือครับ ที่คนบนเรือติดต่อให้ทำคดีแต่ไม่รับ ก็เขาติดต่อผ่านทางเพื่อนผมครับ ผมเลยนัดเจอเขาตอนเย็น ตอนที่เข้ามาก็มีปอกับเบิร์ตนะครับ ส่วนจ๊อบผมไม่เห็น ที่ไม่เป็นทนายให้เขา อย่างแรกผมสนิทกับน้องแตงโม อีกอย่างนึงทางฝ่ายนั้นเขาก็บอกว่าเขามีทนายความอยู่ก่อนแล้ว ผมก็ฟันธงไปแล้วว่าต้องถูกดำเนินคดีทั้งคู่อย่างที่ผมบอกถึงเขาจะจ้างผม ผมก็ทำให้ไม่ได้ครับ เพราะผมสนิทกับน้องแตงโมครับ คนที่เป็นกุนซือไม่ได้ยิ่งใหญ่หรอกครับ แต่เขาน่าจะกลัวว่า ถ้าพูดไปจะมีความผิดในเรื่องหมิ่นประมาทนะครับ มีสื่อช่องหนึ่งบอกว่าเบียร์ แต่เท่าที่ผมรู้ น่าจะเป็นทนายที่ชื่อเอ็มที่ให้คำปรึกษา”

“พิรุธมันเยอะไปหมดเลยนะครับ อย่างที่ผมบอกว่าผมติงในเรื่องการทำงานของตรวจชุดนี้ ทั้งเรื่องการเก็บหลักฐานหรือการเรียกมาสอบคำให้การ คดีนี้รู้ว่ามีการแจ้งความว่าคนตกเรือตั้งแต่ 24 แล้ว แล้วก็ไม่ยอมเอาผู้ต้องสงสัยมาสอบถามตั้งแต่คืนนั้น ปล่อยเวลาล่วงเลยไป อาจมีการปรึกษากัน การเก็บพยานหลักฐานค่อนข้างช้าและไม่ได้เป็นไปตามหลักวิธีการที่ต้องทำ และเรื่องการแจ้งข้อหาหลักฐานมีตั้งนานแล้ว แต่ไม่ยอมแจ้ง จนพี่รัชพลต้องไปแจ้งความกล่าวโทษเอง ตำรวจก็ควรจะต้องแจ้งข้อหาตั้งนานแล้วรออะไรอยู่ เพราะหลักฐานมันมีตั้งแต่ต้นๆ แล้ว จนสังคมขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ทีนี้ทำอะไรก็เป็นข้อสงสัยไปหมด คดีนี้เวลาจบ ก็คงจะไม่ถูกใจครับ เพราะว่าแลดูน่าจะเป็นอุบัติเหตุแล้ว เพราะว่าดูจากการที่มาแจ้งข้อหาแซนคือข้อหาเดียวกัน เพราะฉะนั้นเขาน่าจะสรุปสำนวนช่วงสงกรานต์เหมือนที่ทนายเดชาว่าครับ ก็จบแบบฉงนกันไป ไปต่อสู้กันในชั้นศาลต่อ ของตำรวจคงไม่มีอะไรแล้ว”

สำหรับ ทนายรณณรงค์ เผยว่า “การแจ้งความเท็จในคดีอาญามันไม่มีอะไรการันตี 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนกับประมาทนะ การแจ้งความเท็จต้องไปรอลุ้นนะว่าศาลจะรอให้คุณหรือเปล่าเพราะเป็นความผิดต่อกระบวนการยุติธรรม แต่การไม่เคยทำความผิดมาก่อนอาจรอก็ได้ วันนี้กระติกมาพร้อมกับคุณสิระ เจนจาคะ ผมคิดว่าจะสู้คดี ไม่รู้ว่าการสารภาพครั้งนี้จะทำให้ตำรวจทำสำนวนง่ายขึ้นมั้ย อาจเป็นผลดีกับคุณแตงโมมากขึ้นก็ได้ จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายมันมีคนรับสารภาพไง แต่ตอนนั้นไม่มีใครมายืนยันว่าใครเป็นคนรับสารภาพ ผมคิดว่ากระติกเป็นคนเดียวที่รู้จักแตงโมดีสุด วันนี้คงจะรู้สึกผิด และอยากมีที่ยืนในสังคมก็เลยรับสารภาพ จริงๆ เธอปฏิเสธก็ได้แต่เธอสารภาพ ผมคิดว่าประเด็นที่เธอรับคือการดื่มแอลกอฮอล์ และอาจมีการลามไปว่ากุนซือคนที่ 6 คือใคร สอนให้เธอให้การยังไงด้วยซ้ำ ด้านกระติกรับสารภาพ ต้องดูว่ามีอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า ถ้ามีแค่นี้อย่างน้อยๆ ดวงวิญญาณของเพื่อนก็คงจะให้อภัยมากขึ้น แต่คนที่โกหกก็ยังปฏิเสธอยู่”