คงต้องเรียกว่าโดนทัวร์ลง 24 ชั่วโมงไม่เว้นหยุดราชการ สำหรับ ส.ส.คนดัง ส.ส.เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ยกมือขออาสาเปิดโปงคดีการตายของนางเอกสาวคนดัง แตงโม-นิดา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักที่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปทุกวัน ล่าสุดหันไปจับมือกับ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายแม่ของสาวแตงโม ที่โดนแม่ปลดกลางอากาศ ลุยทวนกระแสสังคมหาหลักฐานใหม่ๆ มาตีแผ่อีกเพียบ งานนี้รายการโต๊ะหนูแหม่ม เลยเชิญทั้งสองคนมาพูดคุยในรายการ

ส.ส.เต้ เผยว่า “เรื่องทัวร์ลงตอนแรก ผมถอดใจนะแต่ไม่ได้ร้องไห้ เพียงแค่ว่าท้อเฉยๆ เพราะอุปสรรคเราเยอะระหว่างทาง แต่ดูแล้วพอผมหยุดปุ๊บ แต่กลุ่มที่เคยช่วยคดีน้องแตงโมก็ถอดใจกันตามและสุดท้ายเนี่ย ความหวังของเราที่มันจะไปได้ไกลกว่านี้อีกหน่อยมันเหมือนว่าความหวังที่เราจะเปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้น สำหรับพี่น้องประชาชนโดยภาพรวมของทั้งประเทศเนี่ยมันจะหายไปมันก็เลยกลับมาสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนจำนวนมากเค้าก็เรียกร้องให้ผมกลับมาเป็นหลัก เพราะเขามองว่าผมน่าจะซื้อไม่ได้ ถามว่าจะหยุดไหม ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ประมาณ 100,000 คน แต่บอกให้เราหยุด 70,000 คน และให้เราไปต่ออีก 30,000 คน เราก็จะหยุด เพราะแปลว่าเสียงส่วนใหญ่ของประเทศคิดแบบนั้น เรื่องทนายตั้มโพสต์อย่าเก็บความสูญเสียเป็นคะแนนนิยม โดยปกติการเป็นผู้แทนราษฎร การตั้งพรรคการเมืองมาก็ต้องทำทุกอย่างให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนโอเคกับสิ่งที่เราทำแล้วก็ลืมตาอ้าปากได้ในกระบวนการยุติธรรม หรือเรื่องอื่นๆ ที่เราเคยทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรมาตลอด ซึ่งก็ต้องทำให้ประชาชนนิยมชมชอบศรัทธา นี่คือหน้าที่ของพรรคการเมือง หน้าที่ของผู้แทนราษฎร และอีกอย่างเรามาจากประชาชน เราคือร่างทรงของพี่น้องประชาชน”

“ส่วนน้ำ มันมีข้อสันนิษฐานสองจุดด้วยกัน จุด 22.34 นาที เป็นจุดที่หนองตกตามข้อสันนิษฐานของ GPS แล้วตำรวจ ซึ่งงานนี้ละ เอามาจากผิวน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ที่ไม่ลึกมาก และอีกขวดนึงมันคือฝั่งตรงข้ามของจุดตก เค้าเรียกว่าตรงจุดเขื่อนประตูการระบายน้ำ (จะเอาน้ำมาทำไม) ตอนนี้ผมทราบว่าทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ตรวจในส่วนของกระเพาะอาหารของแตงโม ซึ่งในกระเพาะอาหารของเค้ามีทั้งทรายและทั้งโคลน เพราะฉะนั้นคำตอบคือ ในปอดของเค้าก็จะเต็มไปด้วยน้ำและน้ำเจ้าพระยา โดยที่ไม่มีเศษดินหรือเศษโคลนที่เข้มข้น แต่นี่มีทั้งทรายทั้งโคลน แสดงว่าตกในบริเวณที่ไม่ลึกมาก นั่นหมายความว่าตอนที่ตกไปก่อนจะสิ้นใจตอนนั้นคือกำลังสำลักแล้วก็กุยดิน กุยทราย ทำให้สำลักทรายและดินเข้าไปก่อนสิ้นใจ ข้อสันนิษฐานจริงๆ คือเราต้องการตรวจเช็กว่าจะตกเนี่ย เค้าตกที่ไหน ซึ่งมันตรวจสอบได้”

“เรื่องหลักฐานไปอยู่ที่อเมริกาและบังแจ็ค ซึ่งผมก็ไม่คอนเฟิร์มนะกับข้อเท็จจริง แต่โดยปกติแล้วในระบบราชการไทยอย่างเช่นอธิบดีคนนี้อยากจะเลื่อยขาอธิบดีคนนี้ เค้าก็จะหาข้อผิดพลาดของอธิบดีคนนี้ไปให้คนนอก ซึ่งมันมีแบบนี้ทุกหน่วยงาน แล้วมันก็ได้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชนไงเพราะว่าบางทีเราก็ต้องรับฟังเค้าบ้าง ซึ่งเราก็ต้องรับหลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาเอามาให้ คนแซะผมเพี้ยน ไม่เป็นไรเพี้ยนก็เพี้ยน คือการเพี้ยนหรือไม่เพี้ยนเนี่ยมันก็อยู่ที่การกระทำ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยผมก็สบายตัวนะ การช่วยเหลือประชาชนเรื่องอื่นเนี่ยง่ายกว่าเรื่องมีเยอะ และอุปสรรคน้อยกว่านี้เยอะ คิดอะไรไม่ออกจุดธูป มันสามารถทำให้เราเดินไปได้อีกก้าวหนึ่ง เหมือนตอนนั้นที่เรายังไม่พบน้องแตงโม ผมก็ไปไหว้หลวงพ่อค้างคาวแล้วก็มีท่านรองหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้หญิงเป็นคนลอยดอกบัว ลอยพวงมาลัย และผมก็ไปธูปบอกสัมภเวสีที่พระรามเจ็ด แล้วก็ไปไหว้พระสยามเทวาฯ ที่ปกปักรักษาบริเวณนั้นทั้งหมด แล้วมันก็สำเร็จ พอหลังจากนั้นเวลาเราเจอเรื่องตันอะไรผมก็มีครูบาอาจารย์ที่เคยไปบวชมาตอนเด็กๆ ก็เลยเชื่อ พอเชื่อเสร็จปุ๊บก็เลยมีการอธิษฐาน และอันไหนมันตันเราก็จุดธูปบอกเขา สามวันเจ็ดวัน มันก็เลยทำให้จากไม่มีกำลังใจมันก็มีกำลังใจขึ้นมา รวมไปถึงทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาอย่างน้อยดวงวิญญาณที่เขาไม่มีพลัง เค้าจะได้มีพลังและมาบอกเราหน่อยเพราะบางทีมันไม่ใช่คดีของพี่มันเป็นคดีของน้อง น้องต้องช่วยพี่ เพราะบางทีพี่ก็ตัน”

ทนายกฤษณะ เผยว่า “ผมขอพูดกับเอฟซีนิดนึง ที่ ส.ส.เต้ พูดไปเมื่อกี้ ถ้าทุกคนยังเชื่อมั่นในตัวผม ถ้าคุณคิดว่าจะให้ผมหยุดไหมหรือว่าจะให้ไปต่อ ถ้ารักผมคุณมีคำตอบอยู่แล้ว ให้บอกผมมานะครับ เราขอยืนยันว่าเรายังไม่เชื่อ 100% คือตอนนี้เราบอกตรงๆ ว่าเราต้องรอผลพิสูจน์ก่อนเราถึงจะเชื่อ 100% ถ้าเราจะไม่รับหลักฐานนี้เลยก็แสดงว่าเราไม่เชื่อ เพราะถ้าเกิดมันเจ๊งขึ้นมา เราจะเสียใจมากเพราะมันเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงสำนวนคดีได้ ถ้าเราไม่รับไว้แล้วเราบอกมาบอกว่าคนนี้เป็นคนไม่มีเครดิต หลายคนก็เลยมองว่าความน่าเชื่อถือเค้าน้อยลง ผมเองในฐานะนักกฎหมาย เราก็จะต้องเอาข้อมูลมาวิเคราะห์กันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรารับมาแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้ฟันธง 100% ซึ่งเราก็ต้องรอข้อพิสูจน์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามันมีเลือดเราก็ต้องไปดูที่บาดแผล ซึ่งเราก็ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนทำ และตรงนี้มันจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ต้องเชื่อมกันให้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าหาไม่เจอมันก็ไม่สามารถไปต่อได้”

“ผมพกรูปแตงโมมาตั้งแต่วันแรกเลย ซึ่งในงานเค้าจะแจก ตอนนี้ก็ยับหมดแล้วและตอนนี้ก็เปลี่ยนศาสนาไปเป็นคริสเตียนแบบน้องแตงโมด้วย เพิ่งไปเปลี่ยนมาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว เพราะตั้งแต่ผมเข้ามาทำคดีนี้ และผมโดนขุดคุ้ย กำลังใจมันก็หายไปพอสมควร แต่หลังจากนั้นผมเองก็คิดว่าเราจะพิสูจน์ยังไงให้ประชาชนเชื่อว่า เราเข้ามาทำคดีนี้ด้วยความตั้งใจจริง และความที่ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมก็จะขอใช้ศาสนานี้แหละ เป็นตัวพิสูจน์ว่า ในเมื่อแตงโมอยู่ในคริสต์ และทางเดียวที่ผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเชื่อว่าผมอยู่กับโมตลอดผมเลยต้องเปลี่ยนศาสนา แต่ทางพุทธเนี่ยผมก็ยังเคารพและยังศรัทธาในคำสอนทุกอย่าง ทุกครั้งที่ออกสื่อไป ผมก็จะมองหน้าน้องในรูปและปัญหาทุกอย่างมันก็จะผ่านไปได้และวันที่ไปโบสถ์วันนั้น ก็มีน้องเต๊ะ-ศตวรรษ พาไป ซึ่งมันก็มีเรื่องเสริมพลังให้กับคนที่มาใหม่ ผมก็หยิบรูปนี้ขึ้นมาและอธิษฐานได้อยู่ที่ดีๆ ตอนที่ผมกำลังจะต่อสู้กับคดีนี้ มันก็มีพลังออกมาแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ไหลออกมาเป็นสายน้ำเลย ซึ่งแฟนผมก็ตกใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงร้องไห้เหมือนเราก็หากำลังใจจากสิ่งที่เรากำลังทำอยู่”