เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 เม.ย. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางพบนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ที่สำนักงาน sittra law firm ย่านสาธร เพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนส.ส.เต้ ออกมาเปิดเผยว่า หลังมีการโต้กันไปมาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันมา โดยสิ่งที่ทนายตั้มแนะนำตนถือว่าเป็นกัลยาณมิตร เนื่องจากตนงเป็นคนเปิดกว้างยอมฟังทุกอย่าง ส่วนจุดมุ่งหมายที่ทำคดีน้องแตงโม คืออยากให้ความยุติธรรมได้ไปไกลมากที่สุด หากใครมีหลักฐานอะไรที่สามารถทำให้สังคมเชื่อมั่นว่าได้ใกล้เคียงกับความจริง ตนก็พร้อมที่จะรับมาเพื่อทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่ก็เชื่อว่าทางตำรวจก็มีหลักฐานที่ไปไกลได้แค่นี้ ยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรใหม่เพิ่มเติม

ส.ส.เต้ เผยอีกว่า ส่วนตัวตนก็มีเรื่องติดอยู่ในใจอย่างเช่นเหตุการณ์บนเรือ ขณะหมาแมวตกน้ำเรายังต้องช่วย แต่นี่คือคน และอีกประเด็นที่สงสัยคือน้องแตงโมกินเหล้าคนเดียวเหรอ และมีสาเหตุที่ทำให้เกิดบาดแผล สาเหตุการตาย และก็ตายตรงจุดไหน วันนี้จึงต้องไปดำน้ำเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ และทรายตรงจุดที่คาดว่าเป็นจุดที่น้องแตงโมเสียชีวิต ซึ่งวันนี้เราก็ได้หลักฐานเพิ่มมาอีกชุดหนึ่งและได้มอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว และในสัปดาห์หน้าก็จะแถลงให้สื่อมวลชนทราบว่าสิ่งที่เราตั้งขอสังเกตข้อสงสัยเป็นไปตามพยานหลักฐานใหม่ มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงรูปคดีได้ดีกว่าเดิม

โดยส่วนตัวอยากได้ทนายตั้มมาช่วยไขคดีนี้ เพราะทนายตั้มเป็นคนที่ความรู้ความสามารถ ถ้ามาช่วยก็จะสามารถทำให้คดีนี้โปร่งใสเป็นการช่วยทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม เพราะคดีนี้ไม่ใช่คดีของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นคดีที่ประชาชน 66 ล้านคนให้ความสนใจ ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำคดีเต็มที่แล้วแต่พยานหลักฐานก็ไปไกลได้แค่นี้สังคมก็ไม่ยอมรับ ถ้ายอมรับอัยการก็คงรับเป็นคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำความจริงให้ปรากฏ ทำให้ความยุติธรรมเป็นความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน ส่วนเรื่องการที่ตนเองไปเชื่อหลักฐานจากบังแจ็ค ตนไม่ได้เชื่อ แต่ครั้นเราจะไม่รับหลักฐานเขาเลยทั้งที่เราก็หากันอยู่ ตำรวจก็หาอยู่ ใครๆก็หา มันเป็นการตัดโอกาสและทำให้เสียโอกาสไปหรือป่าว

นายษิทรา กล่าวว่า หลังจากที่มีการให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันตนก็ยอมรับว่าเป็นคนที่พูดจาแรงเกิดความไม่พอใจบางอย่าง ก็เลยได้มีการนัดกับ ส.ส.เต้ มากินข้าวเพื่อปรับความเข้าใจกัน เนื่องจากเป็นห่วงเกรง ส.ส.เต้จะไปเป็นเครื่องมือให้กับบังแจ็ค ในเรื่องพยานหลักฐาน และจะกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย