หลังจากเดินหน้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหนุ่มแสบนักต้มตุ๋นที่ก่อคดีไว้เป็นหางว่าวความเสียหายหลักล้าน ทั้งหลอกให้ลงทุนทำเสื้อ หลอกจองวัคซีน มอมยาชิงทรัพย์ ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย.65 ) นายอัครพงศ์ พงษ์สุวรรณ หรือ โหงวเฮ้ง อายุ 26 ปี ลูกชายของตลกดัง เท่ง เถิดเทิง พร้อมด้วย บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกมอมยา ชิงทรัพย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการถกไม่เถียง ที่ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงคดีดังกล่าวว่า

โหงวเฮ้ง เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมทำธุรกิจมาก่อน มีช่องยูทูปที่มีฐานแฟนคลับพอสมควร เลยอยากทำแบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น โดยมีการคุยกับหลายๆ แบรนด์ เพื่อที่จะทำงานร่วมกัน แล้วมาตกลงปลงใจกับคนนี้ โดยตนรู้จักกับหนุ่มคนดังกล่าวทางเฟซบุ๊กซึ่งเขาทักเข้ามา คุยกันหลายครั้ง ตนเห็นเพจของเขามีคนติดตามเยอะ ทำให้เชื่อว่าเป็นคนทำธุรกิจจริงๆ หลังจากที่ตนสึกออกมา ก็ได้นัดเจอกันที่ไอคอนสยามเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจกัน ก่อนที่จะชวนลงทุนทำเสื้อเพื่อจะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปมอบให้กับสถานปฏิบัติธรรมที่ตนไปบวช ตนเห็นว่าจะนำเงินรายได้ไปช่วยเหลือที่สถานปฏิบัติธรรม และทราบว่าแม่ของเขาก็ทำงานอยู่ในที่ดังกล่าวด้วย จึงโอนเงินร่วมลงทุนเข้าบัญชี ที่เขาแจ้งไว้โดยครั้งที่ 1 โอนไปจำนวน 160,000 บาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 65 ครั้งที่ 2 ได้โอนเงินจำนวน 31,410 บาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65″

“ครั้งที่ 3 วันที่ 26 มีนาคม โอนไปอีก 6,980 บาท หลังจากนั้นต่างคนต่างก็ไปขายเสื้อในช่องทางของตัวเอง เขาบอกว่าขายดีมีคนจองเข้ามาเยอะ มีการโชว์บัญชีให้ดูซึ่งเป็นบัญชีของแฟนเขา หลังจากนั้นก็มีการนัดส่งมอบเสื้อให้กับลูกค้า ที่สั่งจองเข้ามาในเพจของตน จำนวน 399 ตัว ราคาตัวละ 3,490 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดกลับถูกบ่ายเบี่ยงและเลื่อนไปเรื่อย จนสุดท้ายเขาอ้างว่าจะขอนำเงินส่วนนี้ไปช่วยแฟนก่อน เพราะพี่ชายแฟนขับรถชน ตนก็เริ่มเอะใจ แต่ยังไม่คิดว่าเขาโกง เพราะเขายอมรับว่าเอาเงินเราไปใช้ก่อน แต่ต่อมา ทราบว่าเขาไม่ได้ทำธุรกิจเสื้อผ้าตามที่กล่าวอ้างมาตั้งแต่ต้น จึงรู้ว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุน ทำให้ต้องสูญเงินรวมกับเพื่อน กว่า 300,000 บาท ไม่ใช่แค่ตนที่โดนหลอก ยังมีคนที่สั่งซื้อเสื้อกับตนด้วย มันไม่ใช่แค่ทำให้ตนเสียเงิน แต่ยังทำให้เสียชื่อเสียงด้วย ตนเลยไปหาแม่เขา แล้วเจอแฟนเขาซึ่งอายุแค่ 17 ปี แล้วแฟนเขาเองก็โดนหลอกให้เปิดบัญชีม้าด้วย”

โหงวเฮ้ง เผยต่อว่า “ตอนแรกผมเครียดมาก กลัวจะเป็นข่าวเสียชื่อพ่อ ไม่อยากบอกพ่อ (เท่ง เถิดเทิง) เพราะกลัวพ่อจะเครียดและทำงานไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะคุยกับพ่อ ซึ่งพ่อบอกว่าถ้าเฮ้งบริสุทธิ์ใจไม่ต้องกลัวลูก ถ้าลูกเท่งจะเป็นข่าวเพราะถูกโกง เดินเต็มตัวลูกไม่ต้องกลัว”

ส่วน บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกมอมยา-ชิงทรัพย์ เล่าว่า “ตนเจอกับหนุ่มคนนี้ ครั้งแรกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พัทยา โดยเขา ได้ให้คนขับรถมาบอกว่าเสี่ยเจ้าของบริษัทนาฬิกายี่ห้อดัง และเจ้าของร้านเพชร อยากรู้จัก ตนจึงได้ลุกเดินไปหา ก่อนที่จะนั่งคุยกันจนถูกคอ และได้มีการชักชวนให้มาทำธุรกิจด้วยกัน จะให้ตนเป็นพรีเซนเตอร์นาฬิกา โดยเขาอ้างว่าวันนึงมีรายได้ถึง 20 ล้านบาท อีกวันนึงก็มีการนัดเจอกันเพื่อจะไปคุยงานที่โรงแรม แต่ระหว่างทางมีการแวะซื้อน้ำ และของกินที่เคเอฟซีก่อน ตนเห็นว่าเขามีผู้ติดตามหลายคน ดูน่าเชื่อถือจึงได้ไปกับเขา เมื่อถึงโรงแรม เขาเดินไปหยิบน้ำมาให้ดื่ม หลังดื่มไปไม่นานก็รู้สึกสลึมสลือ เขาเอาไฟฉายมาส่องตามตัวตน มีการลวนลาม จับเนื้อตัว แต่พอดีตนมีประจำเดือน เขาก็ไม่ได้ทำอะไร จนตนไม่รู้สึกตัว พอตื่นมาก็พบว่าไอแพด ไอโฟน รวมทั้งรถยนต์หายไปหมดเลย จึงได้เข้าแจ้งความ จนมาพบในเพจของโหงวเฮ้ง ว่าถูกหลอกและเป็นคนเดียวกันจึงได้ติดต่อกัน”

ในกรณีนี้ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า “สามารถเอาผิดฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ นอกจากนี้ผู้ต้องหารายนี้ยังใช้บัตรประชาชนของพี่ชายในการฉ้อโกง เป็นการแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งต้องดูว่าเรื่องนี้พี่ชายเป็นใจรึเปล่า และยังมีเรื่องของการลักทรัพย์เวลากลางคืน ที่มีการลักรถของคุณบีไป อยากจะแนะให้คุณบี แจ้งไฟแนนซ์เรื่องที่โดนขโมยรถด้วย รวมถึงเรื่องที่มีการอนาจารอีกด้วย ที่ตนสงสัยคือ บุคคลนี้มีหมายจับเยอะแยะ แต่ทำไมยังจับไม่ได้ต้องวอนขอทางเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจดูตรงนี้ด้วย”