สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่ารายงานโดย “กรุ๊ป ฟอร์ เมียนมา” ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระสังเกตการณ์ความเป็นไปในเมียนมา ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ กองทัพเมียนมาเผาทำลายหมู่บ้านในประเทศไปแล้วมากกว่า 100 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ หมู่บ้าน “บิน” ขนาดประมาณ 5,500 ครัวเรือน ตั้งอยู่ในเขตซะไกง์ บริเวณภาคกลางตอนบนของประเทศ และถูกเผาทำลาย เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งโค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ประกาศว่า รัฐบาลแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ที่เป็นองค์กรการเมืองฝ่ายต่อต้านกองทัพ และกองกำลังประชาชนทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับเอ็นยูจี “เป็นองค์กรก่อการร้าย”


ขณะที่การเผาทำลายหมู่บ้าน บิน โดยกองทัพเมียนมา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา แม้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ยอมรับว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น “ต้องใช้เวลานานชั่วลูกชั่วหลาน” เพื่อการฟื้นฟู และการเผาทำลายหมู่บ้านในลักษณะนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเฉพาะกับโครงสร้างพื้นฐาน แต่พื้นที่การเกษตรขนาดมหาศาลซึ่งเป็นแหล่งทำกินหลักของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน


อนึ่ง การสู้รบระลอกใหม่ระหว่างกองทัพเมียนมา กับสหภาพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (เคเอ็นยู) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ดุเดือดอย่างหนักตามแนวชายแดนฝั่งตะวันออกที่ติดกับไทย โดยทั้งสองฝ่ายช่วงชิงอิทธิพลเหนือหมู่บ้านเลเก่ก่อ ในเขตเมียวดี อยู่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 20 กิโลเมตร


สำหรับรัฐกะเหรี่ยงถือเป็นสมรภูมิดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมา เมื่อปีที่แล้ว โดยทุกครั้งที่การสู้รบในบริเวณนี้เกิดขึ้น ประชาชนจำนวนมากจะอพยพข้ามพรมแดนธรรมชาติ มาขอหลบภัยในฝั่งไทยเป็นการชั่วคราว.

เครดิตภาพ : REUTERS