เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า มีหญิงสาวถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่ ทำอนาจาร ว่า ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ตน ซึ่งตนไม่ได้เป็นอย่างนั้น แม้เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากตนเองมีตำแหน่ง และยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจ

“ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาทำให้ช็อกและตกใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอย่างนี้ ซึ่งทางคุณพ่อคุณแม่ห่วง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องชี้แจง ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มองเรื่องฟ้องกลับ ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ ขอพูดกับเจ้าหน้าที่โดยตรง และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายปริญญ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ไม่อยากพูดว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่เรื่องกล่าวหานั้นยืนยันไม่ใช่ความจริง ทั้งนี้ผู้ใหญ่ในพรรคปล่อยให้ตนตัดสินใจอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเองอยากทำงานกับพรรคอยู่ แต่เมื่อมีเรื่องข้อกล่าวหา แม้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่กระทบกับพรรค ก็ต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจน และวันนี้ก็ตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค ส่วนอนาคตจะเข้าสู่วงการเมืองอีกหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่ยังมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน

เมื่อถามว่าทำไมต้องโทรฯ หาแม่ของผู้หญิง นายปริญญ์ กล่าวว่า เป็นการแสดงเจตนาบริสุทธิ์ใจ และตนไม่ได้มีปัญหา ตนช็อกและตกใจตนไม่มีอะไรซุกซ่อน เรื่องรายละเอียดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนพร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ และอยากให้สื่อให้ความเป็นธรรมด้วย และไม่อยากพูดออกสื่อ เพราะจะมีผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ย้ำไม่ใช่เรื่องจริง.