เมื่อวันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมตัว นายเดโช ทองประเสริฐ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.178/2565 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้หน้าห้องพักเลขที่ L 110 ภายในไออุ่นรีสอร์ท ต.ตะกุด อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

สืบเนื่องจากชุดสืบสวนกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ขยายผลทางคดีหลังจากที่ผู้ต้องหาเคยถูกสืบสวนจับกุมมาแล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.249/2562 ลงวันที่ 29 พ.ย. พ.ศ.2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกง จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาปัจจุบันยังไม่เข็ดหลาบ เมื่อประกันตัวออกมาได้เปลี่ยนสถานที่หลบซ่อนตัวและก่อเหตุในลักษณะเดิม คือ มีพฤติการณ์สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม อาทิ ชื่อบัญชี “Wisa Audtho (โจ๊ก พระประแดง)” , ชื่อบัญชี “ไพรัช เซ็งปากน้ำ” , ชื่อบัญชี “ผมจะลาก มึงเข้าคุก” ฯลฯ เพื่อเข้าไปโพสต์หลอกปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องตลอดจนวัตถุมงคลต่างๆ ในกลุ่มเฟซบุ๊กเช่าบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลกลุ่มต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาดังกล่าวยังใช้วิธีการโพสต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่อง และวัตถุมงคลในราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐาน ที่ลงขายในกลุ่มพระเครื่อง วัตถุมงคลต่างๆ เมื่อมีผู้สนใจก็จะให้ลูกค้าโอนเงินค่าวางมัดจำมาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจะทำนิ่งเฉยไม่ส่งวัตถุมงคลให้ เมื่อมีลูกค้าทวงถามก็จะด่าว่าลูกค้า หรือพิมพ์ข้อความหยาบคายจากนั้นจะทำการบล็อกเฟซบุ๊กของลูกค้า หรือบางกรณีเมื่อเห็นว่าลูกค้ารู้ทันกลโกง หรือมีผู้ที่เคยถูกหลอกมาโพสต์ประจานพฤติกรรม ผู้ต้องหาก็จะข่มขู่จะดำเนินคดีกับผู้ที่รู้ทันกลโกงตนทันที

จนกระทั่งล่าสุด มีการนำภาพของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ พ.ต.อ. สังกัด บช.ก. ไปทำเป็นภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กใช้ชื่อบัญชีว่า “ผมจะลาก มึงเข้าคุก” เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งปรับลดราคาค่ามัดจำวัตถุมงคลให้มีราคาถูกลงเพื่อให้ลูกค้าสนใจรีบโอนเงินค่ามัดจำเร็วขึ้น นอกจากนี้ บัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาเคยใช้รองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย และใช้ 5 บัญชี รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้เพื่อติดต่อกับผู้เสียหาย

ก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมในครั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกดำเนินคดีในความผิดเดียวกันนี้มาแล้ว จำนวน 6 ครั้งแต่ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำซาก ไม่สำนึกในความผิดที่ได้กระทำแต่อย่างใด จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย