เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่รัฐสภา นายวิเชียร ชวลิต อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเข้าอำลานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยให้เหตุผลขอเลือกทางเดินของตัวเอง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองต่อไป

“หลายคนคงคิดว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ผมยืนยันว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ได้ทำอย่างเต็มที่แล้วและคิดว่าสิ่งที่อยากจะทำนั้นยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะความรู้ ความสามารถที่ผมมี น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณา ผมเองว่าจะไปทำหน้าที่ที่ไหน ที่จะทำให้สิ่งที่ตนมุ่งหวังประสบความสำเร็จ จึงจำเป็นต้องลาออก ถึงแม้ว่าจะเคยเป็นกรรมาธิการดูแลงบประมาณมาตลอดระยะเวลา 3 ปี และเป็นรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อีกทั้งยังทำหน้าที่หลายอย่าง ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า และขอเลือกทางเดิน ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะไปทำงานต่อที่ไหน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองต่อไป” นายวิเชียร กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากที่ลาออกแล้วจะไปร่วมงานกับนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ หลายคนอาจสงสัยว่าจะไปเลยหรือไม่อย่างไร ทำไมจึงลาออก ตนแจ้งไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า เรามีความมุ่งหวังที่อยากทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ที่ไหนที่สามารถทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำก็ เป็นทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ โดยภายในเร็ววันนี้ ก็จะแจ้งให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป

เมื่อถามว่า ได้แจ้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับทราบหรือยัง นายวิเชียรกล่าวว่า ตนไม่ได้แจ้งว่าจะลาออก แต่ตอนที่มีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งตนได้ยืนยันไม่ต้องการเป็นกรรมการบริหารพรรคตั้งแต่แรก

เมื่อถามย้ำว่า การลาออกครั้งนี้ เนื่องจากมีปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า โดยมารยาทถ้าตนไปพูดในทางโจมตีพรรคเก่า คงไม่ใช่วิสัยของตน แต่อยากแจ้งว่าตนไปอยู่ในที่ที่มีโอกาส และเป็นพรรคที่เปิดโอกาสให้คนได้ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม นั่นคือความประสงค์ของตน

เมื่อถามว่า นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ จะตามไปด้วยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ตนคงตอบแทนไม่ได้ น่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวว่าใครมีความคิดเห็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าคงไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้นายวิเชียร เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2565 โดยนายวิเชียร เป็น 1 ใน 4 กรรมการบริหาร ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาแทนตำแหน่งที่ว่างลง เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ จ.นครราชสีมา โดยได้แจ้งความประสงค์จะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่สุดท้ายกถูกใส่ชื่อเข้ามาพร้อมกับนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ แบบที่เจ้าตัวปฏิเสธไปแล้ว สำหรับลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ที่เลื่อนขึ้นมาแทนนายวิเชียร ได้แก่ ลำดับที่ 26 นายภาคิน สมมิตรธนกุล

อย่างไรก็ตามในการแถลงลาออกของนายวิเชียร มีนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาฟังและให้กำลังใจด้วย อย่างไรก็ตามแม้นายวิเชียร ยังไม่ระบุชัดว่าจะไปเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ แต่พบว่ามีชื่อของนายวิเชียร ไปปรากฏในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคสร้างอนาคตไทย ครั้งที่ 1/2565 ของพรรคสร้างอนาคตไทย ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ ที่ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พรรคสร้างอนาคตไทย.